จัดหาเครื่องบินขับไล่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.68) เวลา 10:00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังเว้นวาระจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีระเบียบวาระสำคัญหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงล็อตใหญ่ มีรายงานข่าวว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่การพิจารณายกระดับความสัมพันธ์ไทย–สวีเดนสู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับวาระลับด้านการชดเชยทางเศรษฐกิจ (offset policy) จากการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนของกองทัพอากาศ มูลค่าโครงการ 60,000 ล้านบาท โดยบริษัท SAAB จากสวีเดนเสนอแพ็กเกจชดเชยมูลค่า 130% หรือคิดเป็น 78,000 ล้านบาท ครอบคลุมการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบ Data Link การยืดอายุการใช้งานระบบเตือนภัยทางอากาศ (Airborne Early Warning) อีก 15 ปี และการเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมการบินของไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตและการบริการ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการบินของประเทศในระยะยาว อีกทั้งยังมีรายงานว่า อาจมอบจรวด Meteor ที่มีพิสัยยิงไกล 200 กิโลเมตรเพิ่มเติมด้วย นอกจากวาระด้านความมั่นคงแล้ว การประชุม ครม. ยังจะพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญหลายด้าน อาทิ กระทรวงการคลัง เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ ขณะที่กระทรวงพลังงาน เสนอการโอนสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย รวมถึงโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าในภาคเหนือ ด้านกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอแผนปฏิบัติการพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ และร่างบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยกับสหราชอาณาจักร ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการรับรองร่างขอบเขตหน้าที่ของกองทุนกีฬาอาเซียน อีกหนึ่งวาระที่ถูกจับตาคือการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่จะเสนอตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ล็อตใหญ่ ซึ่งถูกมองว่าจะมีผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในช่วงต่อไป