ซินแสโชกุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวานนี้ (11 เม.ย.) มีรายงานว่ามีผู้เสียหายกว่า 1,500 คน ถูกลอยแพที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากซื้อทัวร์จากบริษัท เวลท์เอเวอร์ (WealthEver) ในมูลค่า 15,000-20,000 บาท เพื่อไปเที่ยวเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นแบบเหมาลำของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย.60 ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลในภายหลังพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคไม่มีเที่ยวบินจากกรุงเทพ-โอซาก้า ขณะเดียวกันสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้มีหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า สายการบินไม่มีการเปิดให้บริการแบบเช่าเหมาลำ และไม่มีการทำราคาพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น และสายการบินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหากมีการนำชื่อไปอ้างอิงกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อมูลว่า สมาชิกบางส่วนของสมาชิกบางส่วนของบริษัทขายตรง WealthEver ที่ซื้อทัวร์เที่ยวโอซาก้าดังกล่าว โดยจะได้โดยสารกับเที่ยวบิน TG ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ด้วย ซึ่งต่อมาการบินไทยได้ออกมาชี้แจงผ่านหน้าเพจเฟสบุ๊ค Thai Airways ว่า บริษัทไม่เคยได้รับการติดต่อประสานงาน หรือมีการจองบัตรโดยสารล่วงหน้าเป็นหมู่คณะหรือติดต่อขอเช่าเหมาลำจากบริษัททัวร์ใดๆ เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงดังกล่าว และบริษัทมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ช่วงกลางดึกของวานนี้ (11 เม.ย.) บริเวณอาคารผู้โดยสารเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ถูกลอยแพจากทัวร์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยภายหลังผู้เสียหายเริ่มทยอยเดินทางกลับหลังจากเข้าใจว่าน่าจะถูกหลอก แต่ผู้เสียหายบางคนยังคงปักหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อหวังจะได้รับเงินค่าทัวร์ที่จ่ายไปแล้วคืน ขณะที่ต่อมา ชินแสโชกุน หรือ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ ประธานกรรมการบริษัท เวลท์เอเวอร์ ได้ลงคลิปเสียงแจ้งสมาชิกว่า บริษัทได้ยกเลิกโปรโมชั่นเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว และระบุว่าการรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงบ่าย และรวมตัวกันไปแจ้งความรวมทั้งการลงชื่อของผู้เสียหายนั้น ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย ทำให้เครื่องบินที่บริษัทเช่าเหมาลำไม่สามารถลงจอดที่สนามบินได้ ส่วนใครไม่ทำธุรกิจกับบริษัทให้แจ้งรายชื่อบริษัทพร้อมจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายภายใน 3 วัน ทั้งนี้ยังย้ำว่าบริษัทไม่เคยเปิดขายทัวร์มีเพียงการพาลูกทีมไปเที่ยวเท่านั้น ทั้งนี้กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ได้ออกมาชี้แจงว่า จากการตรวจสอบทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงไม่พบว่า บริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายตรงจาก สคบ. แต่อย่างใด อีกทั้งการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเที่ยวต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ซึ่งนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ไม่สามารถรับจดทะเบียนให้ประกอบธุรกิจขายตรงได้ โดยบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ม.ค.60 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ในหมวดธุรกิจ การขายส่งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกแฮอล์ วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการและจำหน่าย นำเข้า-ส่งออก น้ำดื่ม ชา กาแฟ