รัฐล้มเหลว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วันนี้ (29 พ.ค.68) ซึ่งเป็นวันที่สองพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงประเด็นข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บางคนที่เรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายงบประมาณ เพื่อนำไปปรับปรุงว่า ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นนั้น เพราะผลลัพธ์เป็นเชิงลบกระบวนการพิจารณางบประมาณจะไม่ทัน เช่นที่เคยเกิดมาแล้วในปี 2567 จะส่งผลต่อกรอบระยะเวลาการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีที่มีอย่างชัดเจน ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับแก้สามารถทำได้ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ และตอบโจทย์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง นายจุลพันธ์ กล่าวตอบโต้การอภิปรายของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยชี้นำว่าประเทศไทยสุ่มเสี่ยงเป็น “รัฐล้มเหลว” (Failed State) โดยนายจุลพันธ์ ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีความใกล้เคียงกับการเป็นรัฐล้มเหลว เพราะไม่มีสงครามกลางเมือง ยังคงมีเสถียรภาพทางการบริหาร และไม่มีการสูญเสียอำนาจรัฐ หรือการบุกรุกชายแดน “ผมรู้ว่าท่านก็ทราบดีเท่ากับผมว่ามันไม่ใช่และไม่มีความใกล้เคียงใด ๆ เพียงแต่เป็นโวหารทางการเมือง ซึ่งตรงนี้ผมอยากจะเรียกร้องว่า เราต้องมีความผิดชอบในการใช้คำ พอใช้คำลักษณะนั้นออกไป สื่อสารมวลชนเอาไปเล่น ท่านไม่ได้ทำร้ายรัฐบาลนะครับ ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่ว่าท่านต้องรักษาประเทศ เพราะว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นคือมุมมองในเชิงลบที่มาจากภายนอก มองเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎร ว่าคำลักษณะนี้มันถูก เอามาเล่น เอามาพูดกันในรัฐสภา ทำให้มุมมองต่อประเทศไทยเป็นไปในเชิงลบ ทั้งที่ท่านก็รู้ ผมก็รู้ คนที่เรียนรัฐศาสตร์ทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ใกล้เคียงเลย” รมช.คลัง กล่าว