วีพีแอโร่เทค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กรณีการถือครองหุ้นในบริษัทเอกชน และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น ล่าสุด พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่อาจยืนยันว่า หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 นายพีระพันธุ์ยังถือหุ้นในบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามด้วย เนื่องจากปรากฏลายเซ็นของนายพีระพันธุ์ ในฐานะกรรมการบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด ในเอกสารงบการเงินของบริษัทฯ ประจำปี 2566 ซึ่งนำส่งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จากการตรวจสอบเอกสาร "หมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566" ของบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด ที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 พบว่าในหน้าสุดท้ายของเอกสารดังกล่าว ปรากฏลายมือชื่อของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม นอกจากนี้ ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อที่ 7 ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "งบการเงินนี้ได้รับการอนุมัติให้ออกงบการเงินโดยคณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567" ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว นายพีระพันธุ์ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอยู่ การปรากฏลายเซ็นและข้อความอนุมัติงบการเงินดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่านายพีระพันธุ์ยังคงมีบทบาทในการบริหารจัดการและดำเนินกิจการของบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 187 ที่ห้ามมิให้รัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นต่อไป อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 (5) ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2532 ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารงานทางการบินพาณิชย์ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการผลิต การตลาด และเทคนิคที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ข้อมูลประเภทธุรกิจที่แจ้งไว้ล่าสุดคือ "การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย" ซึ่งสร้างรายได้ให้บริษัท 100% ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ พบว่า ไม่มีชื่อของนายพีระพันธุ์เป็นกรรมการ บริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด แล้ว โดยปรากฎชื่อ นายเจียรนัย วงศ์สะอาด ,นายสยาม บางกุลธรรม ,ร้อยเอกพีระภัฏ บุญเจริญ เป็นกรรมการมีสิทธิในการลงนามแทนนายพีระพันธุ์ กรณีนี้จึงต้องจับตาการพิจารณาของ ป.ป.ช. ต่อไปว่า การกระทำของนายพีระพันธุ์จะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะส่งผลต่อสถานะรัฐมนตรีของนายพีระพันธุ์อย่างไร