หุ้นAMD

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.68) ปิดในทิศทางสวนทางกัน โดยดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลง ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-time high) ขานรับแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ หลังความคืบหน้าความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่าง Advanced Micro Devices (AMD) และ Open AI ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,694.97 จุด ลดลง 63.31 จุด หรือ –0.14% ขณะที่ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,740.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.49 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,941.67 จุด เพิ่มขึ้น 161.16 จุด หรือ +0.71% แรงหนุนสำคัญมาจากหุ้น AMD ที่พุ่งขึ้นราว 23–24% หลังประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับ Open AI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาเทคโนโลยีชิป AI สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นในกลุ่ม AI infrastructure และผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายอื่นให้ปรับตัวขึ้นตาม บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลกลางยังคงปิดทำการ (shutdown) ส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่จะทยอยประกาศในช่วงกลางเดือนตุลาคม จะเป็นปัจจัยชี้ทิศทางตลาดในระยะต่อไป ว่าความคาดหวังการเติบโตของกำไรจะสอดคล้องกับการประเมินมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับสูงหรือไม่ ด้านราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์ (COMEX) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปรับขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ +0.4% ปิดที่ 2,691.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำจุดสูงสุดใหม่ หลังนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลงสู่ระดับ 3.77% จาก 3.81% ในวันก่อนหน้า สะท้อนแรงซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้นจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยในระยะต่อไป