ออโต้แบค

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับ Disney เปิดตัว แคมเปญ “Magic Box” มอบประสบการณ์ใหม่ที่ผสานความสนุกและความพิเศษให้กับลูกค้าผ่านสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ออกแบบเฉพาะคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Disney ที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน อาทิ ผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า หมวก ฯลฯ โดยผสานเสน่ห์จากโลกจินตนาการของ Disney เพื่อตอกย้ำ ภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย สร้างแรงบันดาลใจ และเติมเต็มความสุขให้กับผู้บริโภคในทุกมิติ ซึ่งจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 สำหรับแคมเปญ “Magic Box” จัดขึ้นเพื่อคืนกำไรและสร้างความสุขให้แก่ลูกค้าของ PTG ผ่าน กิจกรรมที่เปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้ โดยจัดงาน PT Magic Box เป็นกล่องมหัศจรรย์ในพื้นที่ PT Max Park Salaya ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่สำหรับการเช็คอิน ตลอดจนเชิญชวนลูกค้าส่งประกวดคลิปสั้นภายในงานวิธีการเก็บแต้มเพื่อแลกของรางวัล การโพสต์ภาพหรือวิดีโอการเปิดกล่องสินค้าลิขสิทธิ์ดิสนีย์ที่ผลิตโดยร้านค้าในเครือ PTG และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ การสื่อสารจะครอบคลุมทั้งสื่ออนไลน์และออฟไลน์ เช่น Facebook Max Me, Instagram Max Me, Tik Tok Max Me, แอปพลิเคชันแมกซ์ มี รวมถึงสื่อประชาสัมพันธ์และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเข้าถึง กลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ พีทีจี เอ็นเนอยี มุ่งหวังที่จะเป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน แต่จะเป็น สถานีแห่งความสุขที่จะเติมเต็มทุกการเดินทางของคนไทยให้อยู่ดีมีสุขยิ่งกว่าที่เคย เพื่อส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทในเครือ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกบัตรแมกซ์ การ์ด แอปพลิเคชั่นแมกซ์ มี สถานีบริการน้ำมัน พีที ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านกาแฟคอฟฟี่ เวิลด์ และร้านแมกซ์มาร์ท ในปี 2568-2570 สำหรับ พีทีจี จึงจัดแคมเปญ Magic Box โดยผสานเสน่ห์จากโลกจินตนาการของ Disney ที่สร้างความสุขให้แก่ทุกคนมาแล้วทั่วโลก รวมเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและสมาชิกพีทีจี ให้ทุกๆ การใช้จ่ายภายในร้านค้าใน เครือ และร้านค้าพันธมิตรของพีทีจี สนุก สดใส และพิเศษยิ่งขึ้น ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย สร้างแรงบันดาลใจ และเติมเต็มความสุขให้กับผู้บริโภคในทุกมิติ ในด้านกลยุทธ์ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายสินค้า Merchandise 10% พร้อมขยายฐานสมาชิกในระบบ Max Me เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกและบริการในเครือ ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2568 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะปรับตัวดีขึ้นตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและบรรยากาศท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว โดยยอดจำหน่ายน้ำมันของบริษัทมีโอกาสขยายตัว “เท่ากับหรือมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย” สวนกระแสภาพรวมการบริโภคน้ำมันของประเทศที่ชะลอตัวลง ด้านธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในทุกกลุ่ม ทั้งร้านกาแฟพันธุ์ไทย ศูนย์บริการออโต้แบคส์ และร้านค้าสะดวกซื้อ Maxmart สะท้อนการขยายตัวของฐานลูกค้าและการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและมีระดับน้ำสูงเกือบ 5 เมตร จนถูกนิยามว่า “เร็ว แรง และนาน” โดยบริษัทได้ระดมทรัพยากรจากหน่วยงานในเครือเพื่อจัดส่งสิ่งของและสนับสนุนการฟื้นฟูเร่งด่วน สำหรับแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด ศูนย์บริการออโต้แบคส์ จำนวน 2 สาขาที่ได้รับผลกระทบกำลังอยู่ระหว่างเร่งบูรณะ พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่รถได้รับความเสียหาย อาทิ การยกเว้นค่าแรงและโปรโมชั่นซ่อมรถ พร้อมเสริมทีมช่างเทคนิคเพื่อรองรับความต้องการซ่อมรถที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ประสบภัย