เจาะตลาดจีน

นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งปัจจุบันมี 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแบรนด์ LYO (ไลโอ) 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ Hone (โฮน) 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ ver.88 (เวอร์.88) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และลดการพึ่งพายอดขายในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยล่าสุด บริษัทฯ เดินทางไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้า COSMOPROF ASIA 2025 ที่ประเทศฮ่องกง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2568 ณ Hong Kong Convention & Exhibition Centre (HKCEC) สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เดินทางไปร่วมกับสำนักงานพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศภายใต้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ และขยายฐานลูกค้าตามแผนและกลยุทธ์ของบริษัทฯ สำหรับงาน COSMOPROF ASIA 2025 เป็นการจัดแสดงและนำเสนอผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทสินค้ากลุ่มความงามและการดูแลสุขภาพ (Wellness) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในฮ่องกง และกลุ่มประเทศใกล้เคียง ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการภายใต้วัตถุประสงค์การจัดงาน ทาง “88TH” จึงนำผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ “LYO” (ไลโอ) ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย LYO Shampoo (ไลโอแชมพู), LYO Hair Tonic (ไลโอแฮร์โทนิค), LYO Conditioner (ไลโอครีมนวด) และ LYO Hair Color Shampoo (ไลโอแชมพูปิดผมขาว) อย่างไรก็ตาม นอกจากบริษัทฯ จะเดินทางไปออกบูธที่ฮ่องกงแล้ว บริษัทฯ ยังเตรียมไปเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศจีนด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อนำแบรนด์ “LYO” ไปขยายตลาดในประเทศจีนเพิ่ม ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจสู่การสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัทฯ ในอนาคต “สาเหตุที่บริษัทฯ ขยายไปยังตลาดในประเทศจีน เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ ส่งผลให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการนำแบรนด์สินค้าเข้าไปเจาะตลาด ที่สำคัญคนจีนให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของเส้นผม และชื่นชอบในแบรนด์และสมุนไพรของประเทศไทย ดังนั้น “LYO” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ (ออร์แกนิค) จึงตอบโจทย์ความต้องการของตลาดจีน อย่างมีนัยสำคัญ” นางสาวนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย