เยียวยาผู้เสียหาย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 5/2568 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก.ล.ต. สกมช. และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยขณะนี้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ โดยการเยียวยาผู้เสียหาย กระทรวงดีอีได้มอบหมายให้สำนักงาน ปปง. พิจารณาร่างกฎกระทรวงการคืนเงินแก่ผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยครอบคลุมหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการดำเนินการในกรณีที่มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุด พร้อมทั้งกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินกรณีไม่มีผู้เสียหาย หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ผลการดำเนินงานถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีความคืบหน้าในหลายด้าน อาทิ ด้านการจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ รวม 65,841 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีพนันออนไลน์ 27,711 ราย และคดีบัญชีม้า 7,455 ราย ด้านการปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ปิดกั้น URL รวมทั้งสิ้น 115,907 รายการ โดยเฉพาะเว็บไซต์พนัน 62,805 URL และหลอกลวงออนไลน์ 1,242 URL การระงับบัญชีม้าและทรัพย์สินดิจิทัล มีการระงับบัญชีรวม 916,393 บัญชี และระงับบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลประมาณ 29,000 บัญชี มูลค่ากว่า 186 ล้านบาท แก้ปัญหาซิมม้า ที่ประชุม กสทช. มีมติออกมาตรการให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมร่วมรับผิดชอบตาม พ.ร.ก.เทคโนโลยีฉบับใหม่ ออกกฎหมายลำดับรอง เช่น ประกาศมาตรฐานความรับผิดร่วมทางธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และประกาศการสั่งระงับข้อมูลผิดกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ค. และ 19 มิ.ย. 2568 ตามลำดับ นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎกระทรวงการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยอาชญากรรมออนไลน์ ทั้งนี้ กระทรวงดีอีขอเชิญชวนประชาชนที่ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ให้โทรแจ้งเพื่อระงับและอายัดบัญชี AOC ที่หมายเลข 1441 หรือแจ้งเบาะแสข่าวปลอมและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านสายด่วน 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง และเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com