โนวาร์ตีส

สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย นำโดย นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย และ โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) ผสานพลังจัดงาน Cardio Catalyst ขึ้นเป็นปีที่สามภายใต้แนวคิด A Unified Mission to Transform Heart Health ยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสององค์กรในการยกระดับการดูแลรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดในประเทศไทยอย่างยั่งยืน งานเสวนาครั้งที่สามนี้ ได้รวบรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำจากภาคเอกชน และตัวแทนผู้ป่วย มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนความรู้ มุมมอง และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันหาทางออกสำหรับปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือ โรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular disease) โรคหัวใจและหลอดเลือด ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ยังส่งผลถึงศักยภาพในการพัฒนาประเทศด้วย งาน Cadio Catalyst 2025 เป็นเวทีเสวนาที่จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังคงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการบูรณาการยุทธศาตร์ระดับชาติ และการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างการป้องกัน การรักษา และการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ งานครั้งนี้จัดขึ้นที่ The Event Garden ณ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กรุงเทพฯ โดยได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติกว่า 40 ท่าน ประกอบด้วย ตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ตัวแทนผู้ป่วย พันธมิตรภาคเอกชน และผู้บริหารจาก โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) ไฮไลต์ในงานเป็นการเสวนาระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ และการพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยโรคหัวใจถึงเส้นทางการรักษา เผยถึงอุปสรรคและช่องว่างในการดูแลรักษา เพื่อร่วมกันพัฒนาหาทางออกที่นำไปสู่สุขภาพที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา กล่าวว่า “โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นหนึ่งในสองสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เทียบเคียงกับโรคมะเร็ง และยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่เร่งด่วนในปัจจุบัน การรับมือกับปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ โดยส่งเสริมการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค ผ่านการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาโรคในระยะเริ่มต้น และการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพให้กับประชาชน การมีสุขภาพที่ดีตลอดชีวิตเริ่มต้นจากการดูแลครรภ์ที่เหมาะสม และดำเนินต่อไปด้วยพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ รวมถึงการรับประทานอาหารที่สมดุล การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การไม่สูบบุหรี่ การจำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์ การจัดการความเครียด และการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และโคเลสเตอรอล การลดภาระของโรคหัวใจและหลอดเลือดจำเป็นต้องอาศัยการดำเนินการอย่างเร่งด่วนและประสานงานกันระหว่างภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ ภาคสังคม และภาคเอกชน เวทีนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ ร่วมมือกัน และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับสุขภาพหัวใจของประชาชนไทย” ด้าน พล.ต.ต.นพ. เกษม รัตนสุมาวงศ์ นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ในฐานะแพทย์และตัวแทนของสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ผมตระหนักดีว่า แม้เราจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในการดูแลรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน การส่งเสริมการป้องกันโรค และการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องให้เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ความท้าทายที่ยังคงต้องเผชิญ ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงที่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ความดันโลหิตสูงและโคเลสเตอรอลสูง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดความตระหนักรู้ของประชาชน การได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย การสื่อสารสาธารณะที่มีประสิทธิภาพจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพหัวใจของตนเองได้อย่างเหมาะสม สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับภารกิจนี้ โดยดำเนินงานผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงเว็บไซต์ ThaiHealthyHeart.com ทั้งยังมุ่งเน้นให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงและการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ สมาคมฯยังได้จัดทำแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันและเรื้อรัง เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลขนาดเล็กในการพัฒนาศักยภาพด้านการดูแลรักษาแบบองค์รวม งาน Cardio Catalyst ในวันนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างความร่วมมือ และผนึกกำลังในการขับเคลื่อนสุขภาพหัวใจของประชาชนไทยให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม” รวมถึง เภสัชกรหญิงสุมาลี คริสธานินทร์ ประธานบริหาร บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเน้นถึงความสำคัญของการประสานความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อเป้าหมายร่วมกันในการลดภาระของโรคหัวใจและหลอดเลือด และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย “งานในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการจัดการโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้ผ่านความร่วมมือที่จริงจังระหว่างภาครัฐ องค์กรวิชาชีพ กลุ่มผู้ป่วย และภาคเอกชน ที่โนวาร์ตีส ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญกับผู้ป่วยซึ่งเป็นหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ เรานำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเข้ามาสู่ประเทศไทย พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรจากหลายภาคส่วน เพื่อยกระดับการดูแลรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น เราขอแสดงความชื่นชมต่อความทุ่มเทของโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและความเมตตาในทุก ๆ วัน ดิฉันรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นพลังแห่งความร่วมมือเพื่อพันธกิจร่วมกันในงานวันนี้ เพราะเมื่อเราร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างอนาคตที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีให้กับทุกครอบครัวไทยได้อย่างแท้จริง” โดยงาน Cardio Catalyst: A Unified Mission to Transform Heart Health ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ที่มุ่งยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดทั่วประเทศ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนให้กับประชาชนไทย การมีส่วนร่วมของประชาชนยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ การช่วยดูแลสมาชิกในครอบครัวให้สามารถจัดการกับปัจจัยเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม หรือการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจเดียวกันและดำเนินการอย่างเป็นระบบ เราจะสามารถสร้างอนาคตใหม่ให้สุขภาพหัวใจของคนไทย ที่จะมอบพลังให้ทุกคนได้มีชีวิตยืนยาว แข็งแรง และเติมเต็มชีวิตให้มีคุณค่าอย่างแท้จริง