CommerceBreakEMA

ช่วงนี้แม้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะทยอยฟื้นตัวในหลายกลุ่มธุรกิจ แต่ "กลุ่มค้าปลีก" ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ราคาหุ้นยัง Laggard และซื้อขายต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ท่ามกลางความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มกลับมาเป็นบวกหลังซบเซาต่อเนื่องหลายเดือน ประกอบกับแรงหนุนจากนโยบายการเงินและการคลังที่เดินหน้าเต็มที่ สร้างความพร้อมต่อการกลับมาของ “แรงซื้อ” ในกลุ่มหุ้นบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นทีมข่าว "ข่าวห้นธุรกิจออนไลน์" จึงทำการสำรวจกลุ่มหุ้นค้าปลีกที่ราคา Laggard และมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยหนุนดังกล่าว โดยทำการรวบรวมข้อมูลจากโบรกเกอร์ชั้นนำของไทยอย่างบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งระบุข้อมูลไว้ดังนี้ กลุ่มหุ้นค้าปลีก (Commerce) มีสัญญาณบวกเชิงเทคนิคอย่างชัดเจน โดยดัชนีหมวดค้าปลีกได้ Break เส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วัน ซึ่งเป็นจุดที่สะท้อนว่าเม็ดเงินเริ่มหมุนกลับเข้าสู่กลุ่ม Laggard ที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ในรอบนี้ โดยบล.กรุงศรีประเมินว่าแนวโน้มของกลุ่มค้าปลีกกำลังเข้าสู่จังหวะการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยบวกประกอบหลายด้าน ได้แก่ ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ผ่านจุดต่ำสุดของปีในไตรมาส 2/2568 ส่วนไตรมาส 3/2568 จะเริ่มได้แรงหนุนจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจากจุดต่ำสุด หนุนความเชื่อมั่นจับจ่าย อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือนกรกฎาคม คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวแบบเดือนต่อเดือน (m-m) เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ระหว่างวันที่ 7-13 สิงหาคม นอกจากนี้ การขับเคลื่อนนโยบายการเงินและการคลังที่สอดประสานขึ้น ทั้งดอกเบี้ยนโยบาย และนโยบายอื่น เช่น การแก้หนี้ครัวเรือน รวมทั้งร่างงบประมาณปี 2569 มีแนวโน้มได้รับการอนุมัติจากสภาฯ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และสามารถเบิกจ่ายได้ตามกรอบเวลาปกติ ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนเชิงเศรษฐกิจโดยตรง ในเชิงกลยุทธ์ บล.กรุงศรีมองว่ากลุ่มค้าปลีกน่าจะเป็นกลุ่มหลักท้าย ๆ ที่ยังอยู่ในโซน Deep Value โดยปัจจุบันมีการซื้อขายที่ Forward PER ราว 15.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -1.0 S.D. สะท้อนถึง ความน่าสนใจในเชิงมูลค่า และมีโอกาสที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายถัดไปของ Fund Flow ต่างชาติ สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีกเน้น 2 หุ้น ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 80 บาท เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มและมีการฟื้นตัวเชิงกำไรชัดเจน และบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 23.4 บาท มีจุดแข็งด้านโครงสร้างการค้าปลีกที่กระจายความเสี่ยงจาก Disruption ของแพลตฟอร์มออนไลน์ และยังมีความสามารถแข่งขันระยะกลาง-ยาวที่โดดเด่น