ESGRatings

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเผชิญกับความผันผวนจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและแรงกดดันจากการปรับขึ้นภาษีทางการค้าของสหรัฐฯ แต่บริษัทฯ ยังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตจากกลยุทธ์การขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ผ่านสาขาที่มีมากถึง 8,303 แห่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้า ภายใต้นโยบายดอกเบี้ยที่เป็นธรรม สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเติบโตได้แม้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 167,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 7,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.21% และมีกำไรสุทธิ 1,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อทั้งปีไว้ที่ 10-15% และคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ไม่เกิน 2.70% ทั้งนี้ MTC ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมพัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 รวมถึงได้รับการจัดอันดับหุ้นยั่งยืน (ESG Ratings) ในระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ MSCI ESG Index ระดับ AA พร้อมทั้งได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท (National Long-Term Rating) ที่ A-(tha) จาก Fitch Ratings ตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC), องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และ บริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (KfW DEG) รวมถึงพร้อมขยายความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับศักยภาพลูกค้า สนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก สร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง