GDPยูโรโซน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายในวันอังคาร (29 ก.ค.68) ในแดนบวก ดัชนีหลักปรับตัวขึ้นทั่วกระดาน โดยได้รับแรงหนุนจากการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) ในการลดอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ลงเหลือ 15% ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการค้า ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 550.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด หรือ +0.29% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,857.36 จุด เพิ่มขึ้น 56.48 จุด หรือ +0.72% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,217.37 จุด เพิ่มขึ้น 247.01 จุด หรือ +1.03% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,136.32 จุด เพิ่มขึ้น 54.88 จุด หรือ +0.60% โดยดัชนี STOXX 600 ได้แรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งปรับตัวขึ้นถึง 1.7% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 โดยนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการและศักยภาพในการรับมือความผันผวนจากมาตรการทางภาษี นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อตกลงด้านภาษีระหว่างวอชิงตันและบรัสเซลส์ ซึ่งมีผลลดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จากเดิมที่สูงกว่า 25% เหลือ 15% ช่วยสร้างความชัดเจนด้านการค้าและเสริมความเชื่อมั่นในตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน ความคาดหวังเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรจะเติบโต 1.8% จากปีก่อนหน้า เทียบกับการคาดการณ์ติดลบ 0.3% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนยังจับตาข้อมูลสำคัญในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของยูโรโซนและสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในวันพุธ รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ก่อนปิดท้ายด้วยรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (1 ส.ค.68)