Golden Triangle Group Co.

นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด (Golden Triangle Group Co., Ltd.) หรือ GTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2C) จับกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล อาทิ เครื่องสำอาง ของใช้ประจำวัน บาล์ม สบู่ แชมพู รวมไปถึงกลุ่มยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศที่ต้องการนำสาร CBD ในกัญชงประกอบในสินค้า โดยแผนการตลาดทั้งปี 2565 ได้วางโรดแมปเข้าร่วมงานเทรดโชว์ชั้นนำระหว่างประเทศกว่า 130 งาน ได้แก่ Thailand Franchise & Business Opportunities งานแสดงแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ Thailand International Health EXPO 2022: มหกรรมแสดงศักยภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นต้น อย่างไรก็ดี GTG เน้นเข้าร่วมงานเทรดโชว์เกี่ยวกับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลบุคคล ยาและอาหารเสริม การแพทย์สาธารณสุข และงานเทรดโชว์แฟรนไชส์ ซึ่งต้องการสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อเปิดตัวและเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ทดลองสาร CBD Full-Spectrum ที่คงสารธรรมชาติทั้งหมดของพืชสกุลกัญชาไว้ครบถ้วนรายเดียวของเอเชีย “ผลิตภัณฑ์ Raksa Full-Spectrum CBD Oil ประกอบด้วยสารสกัดที่ทรงคุณค่าอย่างแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) และสารอื่นๆ อาทิ CBD CBDA CBG และ CBC มีคุณสมบัติเด่น คือ ออกฤทธิ์ระงับอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย ลดความวิตกกังวลและอาการทางเส้นประสาท มีประโยชน์กับระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน โรคหัวใจและผลกระทบต่อความเจ็บปวด รวมถึงอารมณ์ผิดปกติ ซึ่งสารเหล่านี้จะเกิด “Entourage Effect” หรือกลไกทางด้านการดูดซึมและตอบสนองที่ช่วยส่งเสริมสรรพคุณกันและกันในการรักษาโรคได้ดี ที่แม้จะใช้ในปริมาณน้อยแต่ให้ประสิทธิภาพสูง ซึ่ง Raksa Full-Spectrum CBD Oil เน้นทั้งคุณภาพและความปลอดภัยระดับมาตรฐานการแพทย์ ให้ผู้ผลิตสินค้าประเภทต่างๆ หรือผู้ประกอบการในส่วนกลางน้ำและปลายน้ำสามารถนำไปต่อยอดในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคได้ตามที่กฎหมายกำหนด ในกลุ่มเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล” นายกฤษณ์ กล่าว ทั้งนี้ CBD Full-Spectrum สกัดจาก Raksa (รักษา) แม่พันธุ์กัญชงพิเศษ ที่ผ่านการวิจัยเพื่อควบคุมคุณภาพน้ำ สารอาหาร และอากาศ มีสารที่มีประโยชน์ทางการแพทย์สูง เฉลี่ยทั้งต้นสูงถึง 15.80% สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกที่มักมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10% อีกทั้งยังเป็นกัญชงสายพันธุ์แรกและสายพันธุ์เดียวในเอเชียที่มีปริมาณสารที่ส่งผลให้เกิดอาการมึนเมาอย่างสาร THC ต่ำกว่า 1% จนแทบไม่ส่งผลเลย และยังเป็นแม่พันธุ์กัญชงที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในไทย แม่พันธุ์ Raksa ยังปลูกในโรงปลูกมาตรฐานระดับการแพทย์แห่งแรกในไทยที่สามารถทำการปลูกและสกัดสารกัญชงได้แบบครบวงจร ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิตทุกขั้นตอนอย่าง GHP (Good Hygiene Practice) อีกทั้งยังอยู่ภายใต้ HACCP (Hazards Analysis and Critical Control Points) และ ISO ซึ่งล้วนเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก แถมยังมีขั้นตอนการสกัดด้วยเทคโนโลยี CO2 ที่ทันสมัยและสะอาด และที่สำคัญที่สุดคือ Raksa มีใบรับรองผลการวิเคราะห์คุณภาพสินค้า หรือ COA (Certificate of Analysis) ปราศจากสิ่งเจือปน และมีส่วนประกอบที่คงที่และตามหลักเกณฑ์ทุกประการ “เนื่องจากการปลดล็อกกัญชง ด้วยการผ่านร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต และการอนุญาตผลิตนำเข้า ส่งออกจำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง พ.ศ. 2563 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญผลักดันให้กัญชงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร ยาและอาหารเสริม เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ซึ่งศูนย์วิจัยกรุงศรีประเมินมูลค่าไว้ราว 15,800 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 126% ต่อปี นับเป็นโอกาสที่ GTG จะต้องเร่งสร้างการรับรู้สาร CBD Full-Spectrum เพื่อขยายฐานลูกค้าชิงความเป็นผู้นำและส่วนแบ่งการตลาด CBD ในประเทศไทย โดยวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาด B2B ควบคู่กับการตลาด B2C อย่างจริงจังในปีนี้ด้วยเป้าหมายการสร้างดีมานด์กัญชงในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ามียอดขายในประเทศกว่า 270 ล้านบาท และเติบโตปีละ 1 เท่าตัว” นายกฤษณ์ กล่าว