JetFuel #MobilityBusiness

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในไตรมาส 1 ปี 2568 ว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน แม้ว่าปริมาณขายน้ำมันรวมจะลดลงจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในฝั่งสถานีบริการที่หดตัวถึง 8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่ลดลง 4% อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Mobility โดยเฉพาะกลุ่มเชิงพาณิชย์อย่างน้ำมัน Jet ยังคงสร้างกำไรขั้นต้นต่อหน่วยได้ดีเพียงพอที่จะชดเชยยอดขายที่ลดลง ขณะที่ธุรกิจ Lifestyle ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการปิดกิจการที่ไม่ทำกำไร และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่า outsource และค่าการตลาด นอกจากนี้ ธุรกิจ Global ยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของปริมาณขายในตลาดฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ บล.กรุงศรี คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/2568 จะลดลงจากไตรมาสแรก โดยมีสาเหตุหลักจากการขาดทุนสต็อก (stock loss) ในกลุ่ม Mobility การใช้โปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการชะลอตัวของกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ตามราคาน้ำมัน Jet ที่อ่อนตัว บล.กรุงศรี ยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ไว้เช่นเดิม และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 17.0 บาทต่อหุ้น โดยมองว่าธุรกิจ Mobility มีแนวโน้มฟื้นตัวจากค่าการตลาดที่ลดลง ตามต้นทุนน้ำมันที่ปรับตัวลง และสถานะของกองทุนน้ำมันที่ติดลบน้อยลง ทั้งนี้ หากผลประกอบการครึ่งปีแรกเป็นไปตามคาด จะคิดเป็นประมาณ 50-55% ของประมาณการทั้งปี