KUN

นางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย โดยเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑลโดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า คุณาลัย ได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของ จำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้เพื่อขยายธุรกิจของบริษัท โดยใช้ในการซื้อที่ดินเพิ่มเติมในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการในอนาคต ด้านนางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย”โดยยึดหลักการในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 ด้าน คือ ทำเลศักยภาพ (COMFORTABLE) บ้านสวยในโครงการที่อบอุ่น (APPEARANCE) ทีมงานมืออาชีพ (RELIABLE) คุณภาพสมราคา (ECONOMY) ด้วยแนวคิด “คุณาลัย สร้างพื้นที่ สร้างความสุข” ซึ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาจะเน้นอยู่ในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถปิดโครงการได้แล้ว 4 โครงการ และมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ 5 โครงการ และโครงการในอนาคต จำนวน 3 โครงการ “คุณาลัย ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ภายใต้แบรนด์ คุณาลัย บีกินส์ (Kunalai Begins), คุณาลัย พอลเลน (Kunalai Pollen), คุณาลัย ซิมโฟนี (Kunalai Symphony) และ โครงการคุณาลัย จอย (Kunalai Joy) และมีบริษัท วิลล่า วาณิช จำกัด เป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายเช่นเดียวกัน โดยเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑลโดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี” นางประวีรัตน์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ ชูจุดเด่นการดึงกลยุทธ์ โดยนำเอาองค์ความรู้ และชื่อเสียงที่สั่งสมมาจากความสำเร็จในการพัฒนาเมืองที่อยู่อาศัยบนทำเลนนทบุรี ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ในการต่อยอดและขยายโครงการในทำเลอื่นให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายในเขตปริมณฑล ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ ที่บริษัทฯวางไว้ ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคต จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม ประมาณ 2,823 ล้านบาท ประกอบด้วย 1).โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 497 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเบื้องต้นคาดว่าเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2/2562 และจะเปิดการขายในช่วงไตรมาส 3/2562 2).โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 เป็นโครงการประเภททาวน์โฮม 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น มูลค่าโครงการรวมประมาณ 826 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยเริ่มก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมา และจะเริ่มเปิดขายได้ในไตรมาส 4/2562 3).โครงการคุณาลัย จอย 2 เป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีทำ จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3/2563 และสามารถเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 4/2563 ด้านผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา 2559-2561 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 297.50 ล้านบาท 450.38 ล้านบาท และ 447.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 5.94 ล้านบาท 10.80 ล้านบาท และ 11.56 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งรายได้รวมเติบโตขึ้นจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคุณาลัย พราว โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด และโครงการคุณาลัย ซิมโฟนี และในปี 2560 กลุ่มบริษัทฯ มีการทยอยโอนกรรมสิทธิ์บ้าน เพิ่มจาก 3 โครงการในปี 2559 คือ ได้มีการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ทาวน์โฮมในโครงการคุณาลัย บีกินส์ จึงมีการรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มขึ้นจากปี 2559 สำหรับปี 2561 กลุ่มบริษัทฯยังคงทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านในโครงการต่อเนื่องทั้ง 4 โครงการในปี 2560 และได้เริ่มรับรู้รายได้จากกรรมสิทธิ์ในโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ โครงการคุณาลัย พอลเลน ดังนั้น จากแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ ที่จะนำพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต