PEต่ำ

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (21 พ.ย.68) ประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่ามีโอกาสน้อยลงอย่างมากที่จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ความคาดหวังต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะสั้นลดลง โดยประเมินว่าโอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเหลือเพียงราว 40% และเฟดจำเป็นต้องรอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จะทยอยเปิดเผยหลังการประชุมวันที่ 10 ธันวาคม ส่งผลให้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยอาจถูกเลื่อนไปสู่ช่วงเดือนมกราคมหรือรอบถัดไปแทน แม้ภาพรวมยังชี้ว่าทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็นขาลงในระยะกลาง โดยภาวะดังกล่าวกดดันตลาดหุ้นหลักในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ปรับตัวลงแรงกว่า 2–3% ในช่วงเช้า ขณะที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับลงไม่ถึง 1% ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวก เนื่องจากตลาดไทยไม่ได้ปรับขึ้นแรงก่อนหน้าจึงมีความเสี่ยงด้านขาลงที่จำกัด ขณะที่สัญญาณทางการเมืองเรื่องความเป็นไปได้ในการยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคม ถูกมองว่าอาจส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากช่วงก่อนยุบสภา ระหว่างการเลือกตั้ง และหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มักมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายระลอก ซึ่งล้วนสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อตลาดการลงทุน นอกจากนี้หากเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศปกติ ซึ่งวุฒิสภาไม่มีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี ตลาดหุ้นไทยมักเคลื่อนไหวในทิศทางบวกในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนักลงทุนตอบรับต่อแนวคิดนโยบายเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นของแต่ละพรรค ซึ่งมีผลต่อการฟื้นตัวของดัชนีทั้งในระหว่างหาเสียงและช่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ดังนั้นประเมินว่าตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังคงพยายามสร้างฐาน โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,265 จุด ซึ่งหากปรับตัวหลุดระดับดังกล่าวภาพรวมตลาดอาจเปลี่ยนเป็นลบและจำเป็นต้องประเมินกรอบการเคลื่อนไหวใหม่ แต่หากดัชนียืนเหนือได้ คาดว่าจะสร้างฐานบริเวณ 1,270–1,280 จุด หากสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,280 จุดได้ จะเป็นสัญญาณเชิงบวกและเปิดโอกาสให้ทดสอบระดับ 1,300 จุดอีกครั้ง ทั้งนี้มองว่าการอ่อนตัวของตลาดเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดีราคายังต่ำ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่มีค่า P/E ต่ำ ซึ่งสะท้อนความคึกคักของตลาดที่ยังไม่กลับมาเต็มที่ สำหรับหุ้นที่ถูกประเมินว่าน่าสนใจในระยะนี้ ได้แก่ ADVANC ซึ่งคาดว่ากำไรไตรมาส 4/68 จะทำระดับสูงสุดของปี และมีราคาพื้นฐานราว 340 บาท หุ้นกลุ่มพลังงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น GULF ซึ่งมีมูลค่าพื้นฐานประเมินราว 60 บาท และ MTC ที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงและราคายังอยู่ในระดับต่ำ ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งถือว่าปลอดภัยในภาวะตลาดผันผวนเพื่อรอรับเงินปันผล (Dividend) เป็นหลัก และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งยังมีปัจจัยบวกจากฤดูกาลท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของการเดินทาง

PEต่ำ

“กัณฑรา” มอง SET มีโอกาสฟื้นหากยืนเหนือ 1,265–1,280 จุด แนะเก็บ ADVANC–GULF–MTC

“กัณฑรา” มอง SET ผันผวน แนะทยอยสะสม “หุ้นพื้นฐานดี” ค่า P/E–P/BV ต่ำ

บริษัท บูรพาทัศน์ (1999) จำกัด