ไทยพาณิชย์

เรื่องของธนาคารไทยพาณิชย์กำลังอยู่ในความสนใจ ยุทธศาสตร์ธุรกิจออกมาใหม่ที่เรียกว่า “กลับหัวตีลังกา” กำลังถูกตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจธนาคารแห่งนี้ ที่จริงแล้ว การขยับตัวอีกครั้งของไทยพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

เรื่องของธนาคารไทยพาณิชย์กำลังอยู่ในความสนใจ

ยุทธศาสตร์ธุรกิจออกมาใหม่ที่เรียกว่า “กลับหัวตีลังกา” กำลังถูกตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจธนาคารแห่งนี้

ที่จริงแล้ว การขยับตัวอีกครั้งของไทยพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

หากจำกันได้ “อาทิตย์ นันทวิทยา” ซีอีโอของแบงก์ไทยพาณิชย์ ออกมาพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2560 แล้ว

และคุณอาทิตย์ กับฝ่ายบริหาร ก็มีการทำความเข้าใจกับพนักงานในเรื่องนี้เป็นขั้นตอนแล้วด้วย

ทุกคนต่างรับทราบดีว่า สาขาธนาคารจะต้องค่อยๆ ลดจำนวนลง

พนักงานที่มีอยู่กว่า 2.7 หมื่นคนนั้น

ก็ต้องปรับลดลงเหลือเพียง 1.5 หมื่นคน

พนักงานที่ลดลง ไทยพาณิชย์ไม่ได้ใช้วิธีการปลด

ทว่า กลับจะใช้วิธีเมื่อมีพนักงานลาออก ก็จะไม่ได้รับเพิ่ม หรือเข้าไปแทนคนเก่า

ส่วนพนักงานเก่าที่ทำงานอยู่ ก็จะมีการจัดให้รับผิดชอบกับงานที่เหมาะสมกับตนเองต่อไป

เราคนภายนอกฟังแล้ว ก็อาจจะดูฝุ่นตลบ

แต่เรื่องนี้คุณอาทิตย์ได้เคยอธิบายให้ฟังแล้วว่า จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีเป้าหมายจะต้องทำให้สำเร็จในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ไม่ใช่คิดวันนี้ และพรุ่งนี้ หรือปีถัดไปจะต้องเสร็จหรือให้บรรลุผล

ว่ากันว่า “ธนาคาร” เป็นงานที่คนในอยากออก และคนนอกอยากเข้า

มีรุ่นน้องที่รู้จักกันครับ เธอทำงานอยู่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

และเพิ่งจะเข้าไปทำงานได้เพียง 2 ปี ก็อยากจะ “ลาออก” แล้ว

เหตุผลก็คือ “น่าเบื่อ” และรายได้นั้น ไม่ได้มีรายได้ดีอย่างที่คาดหวัง หรือมองจากข้างนอกเข้าไป ทำให้มีการเทิร์นโอเวอร์ของพนักงานค่อนข้างสูง

ไทยพาณิชย์นั้น มีการปรับตัวเองมาเป็นลำดับ

นอกจากจะเป็นธนาคารแห่งแรกที่นำ “ตู้เอทีเอ็ม” มาใช้

ก็ยังมีการปรับใหญ่ให้กับตนเองในช่วงที่ “กรรณิกา ชลิตอาภรณ์” ที่ย้ายจากยูนิลีเวอร์ เข้ามาทำงาน และขึ้นมาเป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่

เป้าหมายในขณะนั้นของไทยพาณิชย์คือ รุกสินเชื่อรายย่อยหนักขึ้น

การ “รี-แบรนดิ้ง” จึงเป็นเรื่องสำคัญ

เราจะเห็นไทยพาณิชย์ทำเรื่อง “การรับรู้แบรนด์” หรือ Brand Awareness เยอะมาก

สีสันต้องสะดุดตา การตลาดต้องสะดุดใจ มีสินค้าที่ตรงกับความต้องการลูกค้า

ในยุคของคุณกรรณิกา นอกจากเรื่องของการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เธอยังวางเป้าหมายการเป็นธนาคารที่มีอัตราผลกำไรสุทธิมากสุด

ในยุคของคุณอาทิตย์ มองว่า การมีกำไรมากสุด อาจไม่ได้ยั่งยืนกว่าการเป็นธนาคารที่คนชื่นชมและอยากเข้าใช้มากสุด

และกำไรจะตามมาในภายหลัง

วิธีการทำงาน หรือการปรับใหญ่อีกครั้งของไทยพาณิชย์เริ่มจากการเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ของธนาคาร

และหลังจากนั้นก็ทำความเข้าใจกับฝ่ายบริหาร

หัวหน้างานฝ่ายต่างๆ และกลุ่มพนักงาน

มีคำกล่าวของคุณอาทิตย์ที่พูดกับหัวหน้าฝ่ายจัดการต่างๆ กว่า 20 คนว่า “เราต้องถามตัวเองว่า จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงองค์กร หรือเป็นอุปสรรคขององค์กร”

ส่วนตัวผมชอบกับประโยคหลังนี้

เพราะทำให้มองเห็นว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน

ทุกคนต่างเป็นฟันเฟืองขององค์กรนี้ จะเล็ก จะใหญ่ จะต่างกันแค่ไหน ก็ยังเป็นฟันเฟือง

ฟันเฟืองตัวใดตัวหนึ่งหยุดหมุน กลไกขององค์กรก็จะไม่สมบูรณ์

คุณอาทิตย์ บอกว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับ “เทคโนโลยีดิสรัปชั่น”

เราไม่รู้ว่ารายได้จะเข้ามาเพิ่มอย่างไร แต่ต้นทุนเราจะต้องต่ำ

และหากเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนี้

วันหน้าเราก็ต้องเปลี่ยน

“เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ก่อนที่จะต้องถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยน” คุณอาทิตย์กล่าวไว้ครับ

Back to top button