ALL คาดกำไรปีนี้โตแตะ 600 ลบ. มั่นใจยอดขายตามเป้า หลังอัดโปรฯกระตุ้นตลาด

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันบริษัททำยอดขายได้แล้ว 40% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 5 พันล้านบาท หรือทำได้ราว 2 พันล้านบาท เป็นผลมาจากการที่บริษัทมีการออกแคมเปญโปรโมชั่นออกมาเพื่อกระตุ้นการขาย โดยเน้นไปที่การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ยอดขายยังสามารถทำได้ค่อนข้างดีในภาวะการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เกิดการชะลอตัว

ทั้งนี้บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมาย 5 พันล้านบาท ซึ่งแนวโน้มในช่วงต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากมีการผ่อนมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ลูกค้าเข้าชมโครงการมากขึ้น และการแข่งขันจากผู้ประกอบการเกือบทุกรายในตลาดค่อนข้างรุนแรงจากการออกแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดได้

ขณะที่บริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/63 จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมย่านเจริญนคร มูลค่า 1.5 พันล้านบาท และโครงการ Lasalle 83 มูลค่าราว 2 พันล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดขายเฟส 3 ของโครงการทาวน์เฮาส์ The Vision Ladprao- Nawamin มูลค่า 400 ล้านบาทด้วย

ส่วนโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ The New Forum Plaza คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่แล้ว 70-80%

ด้านรายได้ในปี 63 ยังมั่นใจทำได้ตามเป้า 4 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 600 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน โดยในช่วงไตรมาส 1/63 รายได้และกำไรยังเติบโตได้ดีราว 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว 1.15 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ราว 5.7 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็น Backlog คอนโดมิเนียม Low Rise และทาวน์เฮาส์ที่จะรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามา 200 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้บริษัทยังคงมองว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 63-65 จะยังสามารถเติบโตได้ในระดับตัวเลข 2 หลัก จากแผนการดำเนินงานที่ยังคงทำได้ตามแผนงานที่วางไว้ และยังคงพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 15-20% พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ตจ่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทยังมีที่ดินในมือที่สามารถรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในช่วง 2-3 ปี