ทักษิณกับดอกจูดัส

คำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีกับสื่อต่างประเทศที่บอกว่าทักษิณพ้นโทษออกมาแล้ว แสดงถึงความเชื่อมั่นว่าทักษิณจะต้องพ้นโทษอย่างแน่นอน


คำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กับสื่อต่างประเทศที่บอกว่าทักษิณพ้นโทษออกมาแล้ว แสดงถึงความเชื่อมั่นว่าทักษิณจะต้องพ้นโทษอย่างแน่นอน รัฐบาลจะแต่งตั้งทักษิณให้เป็นที่ปรึกษาจึงทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต่อไปอีกยาวนาน ฟังแล้วรู้สึกขัดหู เหตุผลเพราะรัฐบาลที่เพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งแปลงฐานะตัวเองเป็นรัฐบาลฟอกขาวทักษิณ

ที่พูดอย่างนี้เพราะนายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจเหลือเกินว่าทักษิณจะพ้นโทษจากคดีความต่าง ๆ ด้วยวิธีทางลัดที่เหนือกฎหมาย แถมนายกฯ ยังมีการบอกใบ้อีกว่าทักษิณจะได้รับการอภัยโทษต่างกรรมต่างวาระกัน เช่น เป็นผู้ต้องขังอายุเกิน 70 ปี หรือได้รับการลดโทษในวันสำคัญต่าง ๆ  ซึ่งโดยนัยก็คือว่าการที่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษอื่นที่ทำผิดกฎหมายเสมือนเป็นคดีลหุโทษเสียกระนั้น

คณะทหารนำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นับแต่ปี 2549 เป็นต้นมา มีข้อกล่าวหาสารพัดจนนำไปสู่การถอดยศทักษิณและการยึดทรัพย์ในข้อหาหนีภาษีจนต้องลี้ภัยเป็นเวลานานถึง 15 ปี และจู่ ๆ ทักษิณกลับมาหลังจากประกาศจะกลับและเลื่อนมาหลายครั้ง มามอบตัวและรับโทษเพียงคดีหนีคำตัดสินของศาลเพียงคดีเดียวและรับโทษจำคุกเพียง 1 ปี และแทนที่จะรับโทษจำคุกกลับได้ไปนอนในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลตำรวจด้วยเหตุผลว่าเป็นคนแก่ที่มีสารพัดโรครุมเร้า

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าทักษิณได้กลายเป็นอภิสิทธิ์ชนเหนือนักโทษอื่น ๆ อย่างผิดปกติ และความผิดปกตินี้จะตอกย้ำให้คนเห็นมากขึ้นถ้าหากว่าทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ  และจะยิ่งผิดปกติมากขึ้นเมื่อทักษิณได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐบาล  ทักษิณจะมีฐานะเหนือนายกรัฐมนตรีในทางปฏิบัติซึ่งจะยิ่งตอกย้ำให้คนเห็นตามภาษิตจีนโบราณที่ว่ามีเงินก็จ้างผีโม่แป้งได้  แม้ในทางนิตินัยจะไม่มีคนออกมาบอกว่ารับเงินจากทักษิณไปเท่าไรและด้วยวิธีการไหนบ้าง

พฤติกรรมแบบนี้ทำให้คนเห็นชัดว่าคนรวยสามารถฟอกขาวตัวเองได้เสมอและใช้เงินซื้ออำนาจและความยุติธรรมให้ตนเองและพวกพ้องได้

ที่สำคัญกว่านั้นนี่คือความชั่วร้ายที่ทักษิณปฏิบัติกับพันธมิตรที่เป็นไปไม่ได้ (the impossible partners) อย่างคนเสื้อแดงนับร้อยที่เสียสละชีวิต และนับล้านที่เชื่อมั่นในตัวเขาและพรรคของเขาว่าจะนำสิ่งใหม่ ๆ มาให้ อาทิเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนหมู่บ้าน หรือนโยบายผลิตเหล้าสาโทเสรี ที่สามารถอำพรางข้อเท็จจริงที่ว่าเขากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้ายในโครงการการปราบยาเสพติดและการปราบพี่น้องมุสลิมภาคใต้ในการสังหารหมู่ที่ตากใบจนกระทั่งพรรคเพื่อไทยปฏิเสธที่จะพูดถึงการเข้าร่วมเป็นสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศเพราะกลัวว่าทักษิณจะต้องขึ้นศาลในข้อหาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

การทรยศต่อประชาชนผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยและทักษิณชินวัตรเปรียบได้กับเรื่องสั้นอันโด่งดังของแคทเธอรีน แอนน์พอร์เตอร์ เรื่องดอกจูดัสกำลังเบ่งบาน ที่กล่าวถึงนักปฏิวัติเม็กซิกันในช่วงปฏิวัติ 1920 โดยผ่านสายตาของครูอเมริกันสาวที่ไปช่วยสอนหนังสือให้เด็กอินเดียนแดงจนกระทั่งทำให้ครูสาวคนนั้นต้องละทิ้งขบวนการปฏิวัติเพราะไม่สามารถทนเห็นความน่าสะอิดสะเอียนของหัวหน้านักปฏิวัติหนุ่มในเรื่องได้  กรณีทักษิณก็เช่นเดียวกัน การมองเห็นประชาชนที่เป็นแนวร่วมและหนุนตัวเองขึ้นมาเป็นแค่นั่งร้านที่พร้อมจะรื้อทิ้งเมื่อสร้างบ้านเสร็จ ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญของประชาชน เพราะพันธมิตรที่เป็นไปไม่ได้อย่างทักษิณนั้นมีความกระหายต่ออำนาจมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน 

ผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายจะต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองมากกว่าคำมั่นสัญญาของนักการเมืองที่พร้อมจะแปรพักตร์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้เสมอถ้าหากโอกาสเปิดให้

Back to top button