
PLE-กสทช. กลิ่นฉาวตึก (ใหม่)
จากตึกฉาวสตง. มาสู่ตึกที่กำลังจะฉาวของกสทช. ซึ่งกำลังถูกสาวไส้ผ่าท้องมาขึงพืด โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ
จากตึกฉาวสตง. มาสู่ตึกที่กำลังจะฉาวของกสทช. ซึ่งกำลังถูกสาวไส้ผ่าท้องมาขึงพืด โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ที่นำโดย “รักชนก ศรีนอก” ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) มีวงเงินก่อสร้าง 2,643 ล้านบาท กำหนดเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 2562 และกำหนดสิ้นสุดการก่อสร้างวันที่ 6 ม.ค. 2565 รวมระยะเวลา 1,080 วัน แต่ถูกปล่อยทิ้งร้างและหยุดก่อสร้างมานานหลายปีแล้ว
โดยชื่อที่ปรากฏในฐานะบริษัทรับงานก่อสร้างตึกใหม่กสทช.กลับไม่ใช่ 3 บิ๊กรับเหมาฯ แฮะ…แต่เป็นบริษัทที่มีชื่อว่าบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE ที่คว้าบิ๊กโปรเจกต์นี้ไปครอง…
คนนอกวงการตลาดหุ้นอาจไม่คุ้นเคยกับ PLE แต่ถ้าเป็นนักลงทุนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ เพราะหากย้อนไปสัก 10 ปีที่แล้ว PLE เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีวีรกรรมฉาวโฉ่ มักถูกหยิบมาปั่น…อุ๊ย เก็งกำไรเป็นพัก ๆ บ้างก็เอางบ บ้างก็เอางานใหม่มาสร้างสตอรี่เพื่อทำราคาหุ้น ทำให้มีทั้งคนที่เป็นเศรษฐี แต่ส่วนใหญ่เป็นยาจกจากหุ้นตัวนี้…
ส่วนทุกวันนี้ แม้การทำราคาจะเพลา ๆ ลง แต่ก็ยังมีให้เห็นเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะด้วยภาวะตลาดไม่ค่อยสู้ดี ประกอบกับเป็นหุ้นตัวเล็ก เลยไม่เห็นชัด แต่ที่แน่ ๆ PLE ได้ชื่อว่าเป็นหุ้นสมบัติผลัดกันชมนะจิบอกให้..!?
ขณะที่งบการเงิน บางปีก็มีกำไร…บางปีก็ขาดทุน เอาแน่เอานอนไม่ได้ โดย ณ สิ้นปี 2567 PLE มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในกระเป๋าแค่ 39.68 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีปาไป 288.08 ล้านบาท และมีตัวเลขขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรอยู่ที่ 1,184.65 ล้านบาท
ถ้าดูศักยภาพ สถานะการเงิน ไซซิ่ง หรือโปรไฟล์ แม้ไม่น่าจะรับงานใหญ่ได้ แต่ PLE กลับเป็นตาอยู่ที่ได้พุงปลาไปกิน…ซึ่งถ้าให้เดา ตอนเสนอราคาคงหั่นราคากันสุดลิ่มทิ่มประตูแหง ๆ…เลยคว้างานมาได้
อ้อ…เค้าเมาท์กันว่าจุดแข็งของ PLE มีคอนเน็กชันที่เชื่อมโยงการเมือง…ซึ่งจริงเท็จประการใดมิอาจทราบได้
แต่ก็น่าแปลกที่บริษัทที่มีสถานะการเงินง่อน ๆ แง่น ๆ กลับได้งานใหญ่ต่อเนื่อง อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ส่วนของสัญญา 3 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง และอาคารจอดรถ มูลค่าสัญญา 5,025 ล้านบาท โดยเป็นคู่สัญญาในนามกิจการร่วมค้า พีเออาร์ ถือหุ้นสัดส่วน 49.5%
โครงการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าสัญญา 14,235 ล้านบาท ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานสถาบันวิทยาการท่าอากาศยานและการบิน และงานปรับปรุงภูมิสถาปัตยกรรมสำนักงานใหญ่ มูลค่าสัญญา 1,978 ล้านบาท ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
รวมทั้งโครงการอาคารบริการผู้โดยสารบริเวณลานจอดรถรับนักท่องเที่ยว (ATTA) หรืออาคารกรุ๊ปทัวร์ เป็นหนึ่งในโครงการขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานดอนเมือง วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งก่อสร้างเสร็จในปี 2563 แต่ต่อมาในวันที่ 18 เม.ย. 2565 เกิดพายุถล่มสร้างความเสียหาย…ยังจำกันได้บ่
สงสัย PLE จะเป็นหุ้นเด็กเส้นจริง ๆ นะเนี่ย…
กลับมาที่ประเด็นตึกใหม่กสทช. สุดท้าย PLE ก็ไม่ไหว ซึ่งหนึ่งในข้ออ้างหนีไม่พ้นวิกฤตโควิดนั่นแหละ…
ที่น่าสนใจ แม้จะถูกบอกเลิกสัญญาจากกสทช.ไปแล้ว แต่ PLE ก็ได้รับเงินค่าก่อสร้างมาแล้ว 104 งวด จาก 200 งวด เป็นเงินกว่า 1,598.80 ล้านบาท เชียวหนา…
ขณะที่ กสทช.ในฐานะเจ้าของตึกนั่งไม่ติด ต้องร่อนหนังสือชี้แจง โดยหนึ่งในคำชี้แจงระบุว่า “กสทช.มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่อาคารให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ เนื่องจากมีการลดจำนวนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จาก 11 คน เหลือ 7 คน รวมถึงมีการปรับสายงานภายในสำนักงานกสทช.ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจากเหตุดังกล่าวส่งผลต่อรูปแบบรายละเอียดการก่อสร้าง
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับสำนักงานกสทช. จึงสั่งให้หยุดงานโครงการก่อสร้าง และได้มีการตกลงยกเลิกสัญญา โดยปัจจุบันโครงการก่อสร้างมีความก้าวหน้ารวม 75.95% โดยมีการส่งมอบงานแล้ว 104 งวด จาก 200 งวด เป็นเงิน 1,598,803,560 บาท คิดเป็น 60.49%”
ว่าแต่ไปแอบบอกเลิกสัญญากันเมื่อไหร่เนี่ย..??
ส่วนคำชี้แจงจะฟังขึ้นหรือเปล่า…?? ก็แล้วแต่จะคิด
ขณะที่เรื่องวุ่น ๆ ในกสทช.ก็ยังไม่เคลียร์…เรียกว่าเป็นอีกองค์กรที่มีเรื่องฉาวให้ปวดกบาลเยอะจริง ๆ พับผ่าสิ…
…อิ อิ อิ…