BAM บวกต่อ 3% ตอบรับคืนหนี้ 3 พันล้าน มั่นใจ Q2 สถาบันกลับเข้าลงทุน
BAM บวก 3% มองไตรมาส 2/68 ลูกหนี้ NPL-NPA จ่ายหนี้รวม 3 พันล้านบาท ดันผลเรียกเก็บทั้งปีแตะ 1.78 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรปีนี้ “การันตี” จะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 1.6 พันล้านบาท พร้อมจะจ่ายเงินปันผลให้สูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนสถาบันกลับ เล็งลด D/E เหลือ 2 เท่าใน 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (26 พ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ณ เวลา 6.25 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.31% สูงสุดที่ระดับ 6.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70.68 ล้านบาท
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM เปิดเผยในงาน Opportunity Day ล่าสุด ว่า BAM ยังคงเป้าหมายผลเรียกเก็บปีนี้ไว้ที่ 17,800 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากลูกหนี้ทยอยชำระหนี้คืนที่จะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป โดยขณะนี้มีลูกหนี้เตรียมเงินสำหรับชำระหนี้คืนแล้วกว่า 80% สำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 1 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
ส่วนในฝั่งสินทรัพย์รอการขาย (NPA) มีลูกค้าเตรียมเงินรอชำระหนี้ภายในไตรมาส 2/2568 แล้วเช่นกัน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีลูกหนี้รายอื่นเตรียมทยอยชำระหนี้ให้กับ BAM อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส2/2569 เป็นต้นไป ทำให้ผลเรียกเก็บปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ BAM มั่นใจผลงานในส่วนของการสร้างรายได้และกำไรปีนี้จะเติบโตระดับสูง ที่จะสะท้อนมายังผลตอบแทนเงินปันผลในระดับสูง และสามารถดึงนักลงทุนกลุ่มสถาบันกองทุนรวม ให้กลับมาโฟกัส BAM อีกครั้งผ่านอัตราการจ่ายเงินปันผลของ BAM นับจากนี้เป็นต้นไป ส่วน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้มีการปรับลด Outlook ของ BAM ซึ่งหากดูรายละเอียดภายในจะพบว่า เป็นผลจากความกังวลในเรื่องของผลกำไรที่ปี 2567 น้อยลงเป็นหลัก
“BAM มั่นใจกำไรปีนี้จะกลับมาเติบโตขึ้นแน่นอน” ดร.รักษ์ กล่าว
สำหรับการออกหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงิน 1,650 ล้านบาท ช่วงเดือน เม.ย. 2568 ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน สะท้อนถึงความมั่นใจต่อตัวธุรกิจค่อนข้างสูง ขณะเดียวกัน BAM มีเป้าหมายลดอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio: D/E Ratio) ปีนี้ให้อยู่ที่ระดับ 2 เท่ายาวไปถึง 2 ปีถัดไป จากปัจจุบัน D/E อยู่ที่ระดับ 2.13 เท่า ซึ่งเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 2.8เท่า พร้อมตั้งเป้าหมาย D/E ไม่ให้กลับมาแตะที่ระดับ 2.5 เท่า
พร้อมกันนี้ BAM เตรียมเข้าไปเจรจากับอธิบดีกรมบังคับคดี ในเรื่องของข้อติดขัดต่าง ๆ ในการเรียกคืนเงินกับกรมบังคับคดีให้เร็วขึ้น โดยปี 2567 BAM ได้รับเงินคืนจากกรมบังคับคดีรวม 4,000 ล้านบาท
“ผลงาน BAM ปีนี้ดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงคงเป้าหมายในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระดับสูงขึ้น โดยบริษัทมีกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 1,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากปีก่อนหน้า พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำความมั่นคงทางการเงินขององค์กร และการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่เป้าหมายการซื้อทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้ไว้ที่ระดับ 8,800 ล้านบาท” ดร.รักษ์ กล่าว
ดร.รักษ์ กล่าวอีกว่า การเจรจาหนี้กับกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่ทั้ง 10 ราย ขณะนี้มีความคืบหน้าในเชิงบวก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ จะเห็นความคืบหน้าการคืนเงินจากลูกหนี้กลุ่มนี้ชัดเจนขึ้น ขณะมี 2 รายในกลุ่มนี้ BAM ได้เข้าจัดการจบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินในรายละเอียดต่าง ๆ สำหรับการรีไฟแนนซ์ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย มั่นใจอย่างน้อย 1 รายที่สามารถจัดการได้ 100%
พร้อมกันนี้ ในช่วงต้น มิ.ย. 2568 BAM เตรียมลงนาม (MOU) กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและนอกตลาดฯ จำนวน 3-4ราย ในการร่วมในการพัฒนาทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ช่วยให้ BAM สามารถปล่อยทรัพย์ได้มากขึ้น รวมถึงเตรียมจับมือกับภาครัฐในการปล่อย NPA ให้กับข้าราชการเพิ่มเติมด้วย