
“ทรัมป์” แถลงขู่ “อิหร่าน” หากไม่ยอมสงบศึก จ่อเปิดฉากโจมตีระลอกใหม่
โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาว หลังสหรัฐได้เปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์สำคัญ 3 แห่งในอิหร่าน เตือนให้เลือกสันติภาพ หากไม่ยอมสงบศึก เตรียมแผนโจมตีระลอกใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (22 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้จัดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเพื่อประกาศว่า สหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีอิหร่านแล้ว โดยพุ่งเป้าไปที่โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่ง คือ ฟอร์โด นาทานซ์ และเอสฟาฮาน
“เมื่อไม่นานมานี้ กองทัพสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีอย่างแม่นยำครั้งใหญ่ต่อโรงงานนิวเคลียร์หลัก 3 แห่งของรัฐบาลอิหร่าน ได้แก่ ฟอร์โด นาทานซ์ และอิสฟาฮาน” และเสริมว่า สหรัฐฯ และอิสราเอล “ทำงานร่วมกันเป็นทีม” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ กล่าวต่อว่า แสดงความยินดีว่า ผมขอชื่นชมเหล่าผู้รักชาติชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ขับเครื่องบินอันน่าทึ่งเหล่านั้นในคืนนี้ และกองทัพสหรัฐฯ ทั้งหมดสำหรับการปฏิบัติการที่โลกไม่เคยได้เห็นมาหลายสิบปี” พร้อมเสริมว่า “หวังว่าเราจะไม่จำเป็นต้องใช้กำลังในลักษณะนี้อีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้เตือนอิหร่านว่า อิหร่านต้องสร้างสันติภาพไม่เช่นนั้นการโจมตีในอนาคตจะยิ่งใหญ่และง่ายดายกว่าเดิมมาก โดยอิหร่านต้องเลือกว่าจะสร้างสันติภาพ หรือโศกนาฏกรรมที่ใหญ่หลวงสำหรับอิหร่าน ยิ่งกว่าที่เราได้เห็นมาตลอด 8 วันนี้ โปรดจำไว้ว่ายังมีเป้าหมายอีกมาก
ทรัมป์ ขู่ว่า หากสันติภาพไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจะมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายอื่น ๆ ด้วยความแม่นยำ ความเร็ว และความเชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่ไม่กี่นาทีก็จัดการได้แล้ว
ทั้งนี้ การโจมตีถล่มเป้าหมายนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ 21 มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งทางอาวุธโดยตรงกับอิหร่าน จากเดิมที่เป็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยสื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล หลังเกิดเหตุโจมตีดังกล่าวแล้ว
โดยการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลร้องขอให้สหรัฐฯ เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศที่อิสราเอลเริ่มไปเมื่อต้นเดือนนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่สถานที่หลายจุดในอิหร่าน รวมถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ส่วนการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมปฏิบัติการรุกรานที่นำโดยอิสราเอลครั้งนี้แม้อิหร่านได้เตือนว่าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว ก็คาดว่าจะทำให้ความรุนแรงในภูมิภาคนี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และอาจรวมถึงการที่อิหร่านจะตอบโต้ฐานทัพทหารอเมริกันในตะวันออกกลาง และก่อนหน้านี้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้กล่าวในวิดีโอเมื่อไม่นานมานี้ว่า การที่กองทัพสหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แก้ไขไม่ได้
ด้านสื่ออเมริกันได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯ ได้ส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบอำพรางตัว B-2 และระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ที่ว่ากันว่ามีประสิทธิภาพในการทำลายโครงสร้างใต้ดินอย่างโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน