
หุ้นฟื้นจากโคม่า?
วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเม้าท์ถึงเรื่องสงครามให้เปลืองพื้นที่ข่าว และไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงการเมืองในประเทศให้เปลืองน้ำลาย
วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเม้าท์ถึงเรื่องสงครามให้เปลืองพื้นที่ข่าว และไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงการเมืองในประเทศให้เปลืองน้ำลาย เพราะทั้ง 2 เรื่องมันเกมของผู้มีอำนาจที่พยายามยื้อให้ตัวเองอยู่ในเกมให้นานมากที่สุด ส่งผลให้ภาพรวมของทั้งโลกขึ้นอยู่กับการเจรจาในแต่ละวันออกมาในรูปไหน? อีฉันเลยรู้สึกเอือมระอากับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเหลือเกินนะจะบอกให้
ประกอบกับวันนี้มีเรื่องฉาวเกิดขึ้นกับผู้มีอำนาจ และนักลงทุนรายใหญ่ หรือแม้กระทั้งที่ปรึกษาการเงิน เลยทำให้ภาพในระยะยาวดูไม่ดีเอาเสียเลย “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การพุ่งขึ้นของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,100.01 จุด บวกไป 37.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.28 หมื่นล้านบาท เป็นการฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่คลายกังวลเรื่อง “อิสราเอล” กับ “อิหร่าน” หยุดยิงชั่วคราว จึงทำใหนักลงทุนสถาบันเข้ามาลุยแบบสุดซอยไงล่ะคะ
ประเด็นคำถามวันนี้คือ ตลาดหุ้นไทยฟื้นจากโคม่าแล้วใช่ไหม? เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้..ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนสักเรื่อง “โมนิก้า” ถึงมีอาการสุขปนเศร้าคละเคล้ากันไปบ่อยเหลือเกิน หลังภาพเก่า ๆ ที่ยังติดตาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะภาพที่กองทุนมักฉวยโอกาสสาดหุ้นก่อนใครเพื่อนเป็นประจำ ผนวกกับวันนี้นักลงทุน “รายใหญ่” กับ “รายย่อย” ยังมีอาการคาใจกับเรื่องโรบอทเทรดที่กินส่วนแบ่งสูงถึง 50% แบบนี้..หุ้นจะขึ้นยาวได้อย่างไรล่ะจ๊ะ
ส่วนที่เป็นเรื่องยาวแน่ ๆ คงมองไปที่หุ้น KTC ก่อนใครเพื่อน เพราะวานนี้ยังโดนถล่มขายแบบไม่ยั้ง จนหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 25 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 15.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160 ล้านบาท ซึ่งเป็นฟลอร์ที่สองที่เต็มไปด้วยแรงขายที่ค้างเติ่งเป็นจำนวนมาก และถ้าเทียบกับจำนวนหุ้นที่ตึ๊งมากถึง 420 ล้านหุ้น เทียบกับหุ้นที่ถูกขายในช่วง 2 วันไม่เกิน 30 ล้านหุ้น เลยทำให้รู้ว่า ยังลงน้อยเกินไป..ไม่เชื่อลองถาม “เสี่ยมงคล” ดูก็ได้นะคะ
ในเมื่อเปิดประเด็นร้อน ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ของเม้าท์ถึงหุ้น BTS เพื่อเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสักหน่อย เพราะดูเหมือนโครงการนี้ส่อวุ่นแล้วกระมัง! เพราะรายละเอียดที่ทำไว้ไม่ตรงปกที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ว่า จะไม่เอางบประมาณมาอุดหนุน แต่ดันมีข่าวโผล่ออกมาในทำนองว่า เตรียมจะเอางบปี 69 อุดหนุนเสียอย่างนั้น..อีฉันเลยไม่แน่ใจว่า การที่หุ้นร่วงก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับประเด็นนี้มากน้อยแค่ไหน?..อิอิอิ
เรื่องถัดมาที่ต้องเอ่ยถึงคงเป็นการห้ำหั่นระหว่าง ADVANC กับ TRUE ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่า ฝ่ายแรกเป็นต่อหลายช่วงตัวอย่างแน่นอน จึงเหมือนเป็นการบีบให้ฝ่ายหลังต้องสู้หัวชนฝา จึงไม่แปลกใจที่ต้องงัดกลยุทธ์เผาเงินทิ้งเพื่อรักษาฐานลูกค้า เพราะมันเป็นทางเดียวที่ทำได้ในเวลานาน แถมเมื่อมองไปข้างหน้าจะเห็นว่า ยังมีศึกที่ต้องฟาดฟันกันอีกหลายยก จึงต้องติดตามดูเกมนี้ต่อไปเรื่อย ๆ พะยะค่ะ
ไหน ๆ ก็เม้าท์เรื่องบันเทิง และหุ้นที่ตึ๊งขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้น BEC ที่มีชื่อของ “เสี่ยมงคล” ร่วมถือหุ้นในลำดับที่ 7 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 91.68 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.58% เพื่อฉายภาพให้เห็นการร่วงติดฟลอร์วันที่ 2 น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโดนฟอร์ซเซลอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยอยากถามว่า การที่วานนี้มีออเดอร์หุ้นรออขายอีกเป็นจำนวน 27 ล้านหุ้น แต่เทรดไปแค่ 2 ล้านหุ้นก็ทำให้หุ้นติดฟลอร์ไปแล้วแบบนี้..คุณ ๆ ท่าน ๆ คิดว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.62 บาท ลบไป 0.48 บาท หรือลงไป 15.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 ล้านบาท จะมีฟลอร์ 3..ฟลอร์ 4..ฟลอร์ 5 และฟลอร์เรื่อย ๆ อีกไหมเจ้าคะ
โมนิก้าและทีมงาน