GULF ควักเงิน 704 ล้าน ซื้อหุ้น 50% โซลาร์ฟาร์ม “GUNKUL” 9 โครงการ กำลังผลิต 460.8 MW

GULF เข้าซื้อหุ้น 50% ใน 9 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จาก GUNKUL รวมกำลังผลิต 460.8 เมกะวัตต์ หนุนเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดแตะ 40% ภายในปี 78


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงรวม 5,203 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของประเทศ ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าเฉลี่ย และสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2608

รวมถึงเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ร้อยละ 30-40 ภายในปี 2573 (Nationally Determined Contribution : NDC) โดย กพช. มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินการออกระเบียบและประกาศรับซื้อไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ยื่นข้อเสนอและได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้แผนดังกล่าว ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (wind farms)

โดยที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“กฟผ.”) เป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรวม 29 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 1,641.1 เมกะวัตต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567-2573

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่าเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้เข้าลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์เจน จำกัด (GSPG) และบริษัท กันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี่ 2 จำกัด (GOE2) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 โดย GRE เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนใน 2 บริษัท รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 704 ล้านบาท ขณะที่ GUNKUL ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50

ทั้งนี้ GSPG และ GOE2 เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยมีโครงการภายใต้ 2 บริษัทดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวมทั้งสิ้น 460.8 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็น solar farms จำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 410.2 เมกะวัตต์ และ solar farms with battery energy storage systems จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 50.6 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวทั้งหมดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569-2573 โดยภายหลังจากที่ GRE เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 ใน 2 บริษัทดังกล่าว ทำให้ GRE มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัทฯ (Equity MW) รวมทั้งสิ้น 230.4 เมกะวัตต์

โดยการเข้าลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกความแข็งแกร่งระหว่างสองกลุ่มบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่ GUNKUL มีความชำนาญด้านพลังงานทดแทนแบบครบวงจรและงานวิศวกรรมก่อสร้าง

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทร่วมทุน และสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ภายในปี 2578 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่มุ่งผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดเพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ

โดยบริษัทฯ มีแผนการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ และพลังงานขยะอุตสาหกรรม ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

Back to top button