
EGCO กวาดกำไร Q2 ทะลุ 2.1 พันล้าน รับรายได้ขายไฟเพิ่ม
EGCO โชว์กำไรไตรมาส 2/68 ทะลุ 2.1 พันล้านบาท โต 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับแรงหนุนจากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่ม รายได้ขายโครงการ และต้นทุนเชื้อเพลิงลด ส่วนครึ่งปีแรกกำไร 5.7 พันล้านบาท 88% จากปีก่อนหน้า
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% หรือ 286 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2568 สาเหตุหลักมาจากโรงไฟฟ้าบีแอล ซีพี เอ็นทีพีซี และเอ็กพีซีแอล มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่เอเพ็กซ์รับรู้รายได้จากการขายโครงการ และลินเดน ทอปโก้มีต้นทุนเชื้อเพลิงต่อหน่วยลดลง รวมถึงซีดีไอมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น แม้หยุนหลินและพาจูอีเอสมีปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง และโรงไฟฟ้าบีพียู เคแอลยู และเอ็กโก โคเจนได้รับผลกระทบจากการบันทึกค่าก๊าซธรรมชาติเรียกเก็บย้อนหลังเดือนกันยายน–ธันวาคม 2566
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4% หรือ 76 ล้านบาท จากเอ็นทีวันพีซีและเอ็กพีซีแอลที่มียอดขายไฟฟ้าเพิ่ม เอเพ็กซ์มีรายได้ขายโครงการเพิ่ม และซีดีไอมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น แม้หยุนหลินมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และบีพียู เคแอลยู รวมถึงเอ็กโก โคเจนยังได้รับผลกระทบจากค่าก๊าซย้อนหลัง
สำหรับครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานรวม 3,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% หรือ 94 ล้านบาท จากปีก่อน เนื่องจาก บฟข. และเอสบีพีแอลมีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงลดลง เอ็กพีซีแอล เอ็นทีวันพีซี และบีพียูมียอดขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น คัมแพซมีรายได้ขายไฟฟ้าสูงขึ้น และซีดีไอมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น แม้พาจูอีเอสมีอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยลดลง ลินเดน ทอปโก้มียอดขายไฟฟ้าลดลง และหยุนหลินมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น
ด้านรายได้รวมไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 11,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% หรือ 522 ล้านบาท จากไตรมาสแรก ตามรายได้ค่าขายไฟฟ้าของ บฟข. ที่เพิ่มขึ้นตามราคาเชื้อเพลิง และบีพียู เคแอลยูมียอดขายไฟฟ้าสูงขึ้น ขณะที่รายได้รวม 6 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 22,198 ล้านบาท ลดลง 3% หรือ 673 ล้านบาท จากปีก่อน เนื่องจากเคซอนมีอัตราค่าไฟฟ้าลดลง และการขายเงินลงทุนในบีอาร์ดับบลิวเอฟ แม้บีพียูจะมียอดขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิงวด 3 เดือนในไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 2,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 หรือ 764 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับการรับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง อันเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินวอนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 5,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 88 หรือ 2,679 ล้านบาท จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการไรเซ็กและบีอาร์ดับบลิวเอฟ ร่วมกับการรับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง จากการแข็งค่าของเงินวอนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ