ดอลลาร์สหรัฐกับจุดจบ Exceptionalism.?

ลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง” มากสุดรอบกว่า 3 ปี เมื่อเทียบสกุลเงินยูโร


ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง” มากสุดรอบกว่า 3 ปี เมื่อเทียบสกุลเงินยูโร ท่ามกลางความกังวลถึงความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บั่นทอนความเชื่อมั่นนโยบายการเงินของประเทศ

มีรายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความคิดจะเลือกและประกาศตั้งประธานเฟดคนใหม่ เพื่อมาแทนที่ “เจอโรม พาวเวลล์” ช่วงเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

Asia FX ของ InTouch Capital Markets ระบุว่า ตลาดอาจแสดงความไม่พอใจ หากมีการเปลี่ยนประธานเฟดช่วงเร็ว ๆ นี้ ข้อสำคัญหากการตัดสินใจนี้ มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่ อาจทำให้มีความกังวลว่าจะเกิดการเสื่อมจากความเป็นอิสระของเฟด

นั่นหมายถึงอาจลดทอนความน่าเชื่อถือ หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง อาจมีการปรับการคาดการณ์ของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีการประเมินสถานะของสกุลเงินดอลลาร์ใหม่

“ทรัมป์” มีการวิพากษ์วิจารณ์ “พาวเวลล์” ที่ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยลง หลังจากประธานเฟดแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า การกำหนดนโยบายการเงินจะต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมาตรการภาษีของทรัมป์ อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ

ขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่า การประชุมของเฟดครั้งต่อไป ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ มีโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นได้ 25% จากก่อนหน้านี้ 12% 

มีการประเมินว่าภายในสิ้นปีนี้ มีความเป็นได้ที่เฟด อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 64% เพิ่มขึ้นจาก 46% ช่วงก่อนหน้านี้

สำหรับมูลค่าดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง เมื่อเทียบสกุลเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะสกุลเงินยูโรกับสกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 1.1687 ดอลลาร์สหรัฐ และ1.369 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565 ตามลำดับ

นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังอ่อนตัวถึงขีดสุด เมื่อเทียบฟรังก์สวิสนับตั้งแต่ปี 2554 ขณะนี้มีมูลค่าค่าเท่ากับ 0.8033 ฟรังก์ ระหว่างที่ฟรังก์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในประวัติการณ์ หลายคนเริ่มกลับมาสนใจนโยบายภาษีทรัมป์ เนื่องจากวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันครบกำหนดการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ

โดย JPMorgan ออกมาเตือนว่าภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เหล่านี้ อาจถ่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้มีโอกาสจะเกิดภาวะถดถอยถึง 40% 

ทั้งนี้ JPMorgan ประเมินว่า โอกาสจะเกิดผลกระทบทางลบเพิ่มเติมกำลังสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าอัตราภาษีนำเข้าต่างๆ ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น

สุดท้ายสหรัฐฯ อาจเผชิญกับจุดจบของการเป็นมหาอำนาจเหนือกฎหมายโลก หรือที่เรียกว่า Exceptionalism ที่เป็นหัวข้อที่ผู้คนเริ่มพูดถึงเป็นอย่างมากหลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงช่วงเดือนที่ผ่านมา

ขณะที่เหล่าบรรดานักลงทุน..ต่างพากันตั้งคำถามถึงสถานะสกุลเงินสำรองที่โดดเด่นของดอลลาร์และการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลักในบรรดาสกุลเงินต่าง ๆ ตามมาด้วยเช่นกัน

Back to top button