ลุยหุ้นสุดซอย!

สิ่งที่ “โมนิก้า” เชื่อมาตลอดนับตั้งแต่ก้าวสู่วงการตลาดหุ้นก็คือ “ความหวัง” เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการพูดถึงผลเจรจาเรื่องเทรดวอร์น่าจะออกมาดี หลังประเทศเวียดนามโดนเก็บภาษีที่ระดับ 20% จากเดิมโดนเรียกเก็บที่ 46% จึงทำให้ผู้คนทั่วไปเชื่อว่า ประเทศไทยไม่น่าจะโดนเก็บน้อยกว่า 20% จากเดิมที่โดนเรียกเก็บ 37% ไงล่ะคะ

งานนี้บอกได้เลยว่า หากสูตรดังกล่าวออกมาจริงเหมือนที่คาดการณ์ไว้ ตลาดหุ้นไทยได้ลิงโลดต่ออย่างแน่นอน เพราะผู้ประกอบการเห็นลู่ทางในการทำธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น และสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้านได้สบาย ๆ ขณะเดียวกันเมื่อเหลือบดูเรื่องการเมืองจะเห็นว่า หลายอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และมีจุดหมายเดียวกันคือ พาประเทศชาติฝ่ามรสุมไปให้ได้ก่อน ต่อจากนั้นค่อย “ยุบสภา” และ “เลือกตั้งใหม่” แบบนี้..ยิ้มแฉ่งกันถ้วนหน้าเลยจ้า!

ประเด็นข้างต้นทำให้มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 พร้อมกับดันดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,127.21จุด บวกไป 11.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.48 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจังหวะที่ต้องลุยหุ้นสุดซอย (หากคิดว่า สมมติฐานน่าเป็นจริง) และภาพที่จะได้เห็นต่อจากนี้จะเป็นลักษณะไล่บลูชิพสลับกลุ่มกันไปเรื่อย ๆ และวานนี้เป็นคิวของหุ้นอิเล็กฯ ซึ่งมาแบบโดดเด่นกันทุกตัวเจ้าค่ะ

โดยเฉพาะในรายของเฮียกวง KCE เด้งแรงเป็นวันที่ 2 พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 21.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 694 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่เกี่ยวพันกับเรื่องเทรดวอร์อย่างมีนัยสำคัญ จึงเชื่อว่า ราคาหุ้นไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้! หากทุกอย่างเป็นเหมือนที่ประเมินไว้ในข้างต้น..นี่เป็นจังหวะที่ขาลุยต้องใส่สุดซอย เพราะโมเมนตัมของการลงทุนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะซี

อีกรายที่น่าตามไปดู “โมนิก้า” ขอชำเลืองสายตาไปที่หุ้น CCET เป็นรายถัดมา และเหตุผลที่ให้ความสนใจเป็นเพราะรายย่อยเข้าไปตะลุมบอนเยอะมาก ผนวกกับราคาหุ้นเพิ่งขึ้นอย่างจริงจัง อีฉันเลยมองการยืนปิดที่ระดับ 5.85 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 9.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 631 ล้านบาท ท่ามกลางราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 7.60 บาทแบบนี้..น่าสนใจสุด ๆ นะจะบอกให้

ส่วนรายที่เริ่มฟื้นจากพิษฟอร์ซเซลอย่างหุ้น BEC ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับขาลุย เพราะการร่วงของราคาหุ้นไม่ได้เกี่ยวกับพื้นฐาน จึงถึงเวลาที่ราคาหุ้นจะกลับขึ้นไปยืนที่ราคาเหมาะสมเสียที! โดยหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญก็คือ BV ที่ระดับ 3.06 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานยืนปิดที่ระดับ 2.04 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 246 ล้านบาท คุณ ๆ ท่าน ๆ ว่า น่าเล่นไหมล่ะคะ

เม้าท์ถึงหุ้นที่คัมแบ็กกันทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น MASTER เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่เข้ามารอบใหม่ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นได้รู้คร่าว ๆ ว่า ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นดี! จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นเป็นระยะ จนสุดท้ายหุ้นยืนปิดที่ระดับ 13 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55 ล้านบาท โดยการเทรดระดับนี้อยู่บน PE 7 เท่าแบบนี้.. “เสี่ยง” หรือ “ไม่เสี่ยง” ลองไปประเมินกันดูนะจ๊ะ

ตบท้ายกันที่หุ้นนวดอย่าง SPA กันดีกว่า! เพราะการดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.50 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 12.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาท มาจากกองทุนต่างประเทศเข้ามาเก็บหุ้นจนแตะระดับ 5% จึงทำให้นักเล่นเชื่อว่า น่าจะมีอะไรพิเศษซ่อนไว้แน่ ๆ ผนวกกับรัฐบาลอัดงบประมาณเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว จึงกลายเป็นสองแรงบวกที่น่าจะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นขยับขึ้นอีกนะนายจ๋า!

โมนิก้าและทีมงาน