GULF โชว์ศักยภาพธุรกิจมั่นคง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 25% พร้อมเครดิตเรตติ้ง AA-
บล.กสิกรไทยชี้ GULF เป็นหุ้นเด่นจากโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง รายได้หลักมาจากสัญญาขายไฟระยะยาวกับ กฟผ. หนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง คาดปี 68 รายได้โต 25% รับกำไร ADVANC-เครดิตเรตติ้งเพิ่มเป็น AA- จากเดิม A+
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF จากโครงสร้างธุรกิจที่มีความมั่นคงและสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ดี
โดยประเมินว่า GULF แทบไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาอย่างไร เนื่องจาก 92% ของรายได้มาจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยแบ่งเป็น 80% จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ, 3% จากพลังงานหมุนเวียน และ 9% จากธุรกิจ LNG
ด้านความเสี่ยงเชิงกฎระเบียบ (regulatory risk) อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่น เนื่องจากมีเพียง 6% ของรายได้เท่านั้นที่มาจากโรงไฟฟ้า SPP ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้ภาคอุตสาหกรรมโดยตรง
ทั้งนี้ GULF ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2568 ที่ระดับ 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก 4 ด้าน ได้แก่
1.การรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าใหม่ หน่วยที่ 3 และ 4 ของโครงการ GPD
2.โรงไฟฟ้า HKP หน่วยที่ 2 กำลังการผลิต 770 เมกะวัตต์ ที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2568
3.โครงการโซลาร์เพิ่มเติมประมาณ 707 เมกะวัตต์ ซึ่งรวมถึงโซลาร์ฟาร์ม, โซลาร์+BESS และโซลาร์รูฟท็อป โดยคาดว่าจะเริ่ม COD ได้ภายในสิ้นปี
4.รายได้จากเงินลงทุนใน ADVANC ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้กำไรจาก ADVANC ได้ราว 10,000–12,000 ล้านบาทในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 15,000–18,000 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ สถานะเครดิตของ GULF ยังปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทได้รับการปรับอันดับเครดิตจาก A+ เป็น AA- ภายหลังการควบรวมกิจการ (amalgamation)