GULF ทุ่ม 4.2 หมื่นล้าน ลงทุน 11 โครงการ “วินด์ฟาร์ม-โซลาร์ฟาร์ม” 746.6 MW

GULF เดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียน ลงทุน 11 โครงการ “โซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม” มูลค่ารวม 4.2 หมื่นล้านบาท กำลังผลิตรวม 746.6 เมกะวัตต์ พร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 69–70


บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่กลุ่มบริษัทได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการพลังงานหมุนเวียน และได้มีการเข้าลงทุนในโครงการของบริษัทพันธมิตร ภายใต้แผนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) นั้น

ทั้งนี้ บริษัทแจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้กลุ่มบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดำเนินการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภายใต้กลุ่มบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE ) ที่มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569 – 2570 จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 746.6 เมกกะวัตต์ โดยโครงการดังกล่าวได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นระยะเวลา 25 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 42,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) 4 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 244.6 เมกะวัตต์

2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) 2 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 126.0 เมกะวัตต์

3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (wind farms) 5 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 376.0 เมกะวัตต์

การพัฒนาโครงการดังกล่าวข้างต้นเป็นไปตามแผนของบริษัทฯ ที่จะมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายใต้กลุ่มบริษัทฯ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

โดยการทำรายการดังกล่าวถือเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม (รวมเรียกว่า “ประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไปฯ”) โดยรายการดังกล่าวมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 5.7757 จากการคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ได้ขนาดรายการสูงสุด โดยคำนวณจากข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนสำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 และเมื่อรวมกับขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ในรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เข้าทำรายการในครั้งนี้ ทำให้มีขนาดรายการรวมสูงสุดทั้งสิ้นร้อยละ 25.8896 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 จึงเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ประเภทที่ 2 ตามประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไปฯ กล่าวคือ เป็นรายการที่มีขนาดรายการเท่ากับหรือสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจัดส่งหนังสือแจ้งสารสนเทศให้แก่ผู้ถือหุ้น ภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

Back to top button