พาราสาวะถี

การปรากฎตัวสองหนให้เป็นข่าวของ ทักษิณ ชินวัตร ครั้งแรกอาจเป็นเรื่องการรับเชิญที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจที่จะสื่อข่าวส่งความยืนยันทิศทางการเมืองว่าด้วยเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ไร้ปัญหา แม้ว่า แพทองธาร ชินวัตร จะต้องพ้นจากตำแหน่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีคลิปคุยกับ ฮุน เซน เป็นความผิด โดยทั้งหมดที่พูดถึงสารพัดเรื่องที่รุมเร้ารัฐบาลลูกสาว ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมขบวนของฝ่ายกุมอำนาจได้เป็นอย่างดี

ขณะที่การไปร่วมประชุมคณะที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรีและทีมไทยแลนด์ ที่บ้านพิษณุโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นการปรากฎกายเพื่อส่งสัญญาณ การเจรจาของคณะทำงานที่รัฐบาลตั้งขึ้น ยังมีความหวัง ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามว่ามาในฐานะใด เมื่อ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเจรจารับจบเป็นคนเชิญมาในฐานะอดีตผู้นำประเทศ ที่มีความรู้ ความสามารถ และคอนเนคชั่นอันจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองหากได้รับคำแนะนำ

ดังนั้น ในภาคการเมืองที่ว่าด้วยรัฐบาลผสมแม้เสียงจะปริ่มน้ำ น่าเป็นห่วงกว่าการที่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมงานด้วยอาจจะใช่ หากมองแง่ความคล่องตัวในการทำงาน และการตัดสินใจทางการเมืองต่าง ๆ ถือว่าดีกว่า สบายใจกว่า เพราะจะไม่มีพวกที่คอยทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล หลังการจัดการอำนาจบริหารลงตัว สิ่งที่จะได้เห็นกันตามมาย่อมหนีไม่พ้น การสะสางเรื่องราวที่ถูกมองว่าเป็นปัญหาทางการเมืองของพรรคที่เคยเป็นพวกกันมาก่อนหน้า

ตามข่าว 2 เรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันนี้(14กรกฎาคม) เรื่องแรกแม้ไม่มีการยืนยันหรือปฏิเสธจากบุคคลที่มีการอ้างถึง แนวโน้มน่าจะเป็นไปในทางที่คุณแหล่งข่าวระบุว่า นั่นก็คือ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ศาลฎีกาและศาลปกครองตัดสินถึงที่สุดแล้วว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นปมทำให้เขม่นกันระหว่างพรรคแกนนำกับพรรคสีน้ำเงินมาแล้ว

เหตุผลที่ทำให้เชื่อว่าบิ๊กอ้วนน่าจะดำเนินการ นั่นเป็นเพราะหลังจากรับเก้าอี้มท.1 ทั้งที่มีการประกาศว่าให้เวลาบรรดาผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง 3 เดือนในการทำงาน ก่อนจะมีการประเมิน ใครไม่เข้ามาจะต้องมีการย้ายพ้นตำแหน่ง แต่ไม่ถึง 3 วันก็มีการเด้งอธิบดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทันที เหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู อีกนัยคือเป็นการสะท้อนให้เห็นความเด็ดขาดในการตัดสินใจของผู้มาใหม่นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้การจะตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบเรื่องที่ดินเขากระโดงจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพื่อหาข้อยุติให้ชัดเจน โดยเฉพาะในกรณีที่ก่อนหน้านี้อธิบดีกรมที่ดิน มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 ก่อนจะมีบทสรุปว่าไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง การมีคณะกรรมการมาตรวจสอบเพื่อให้เกิดความแน่ชัดว่า คำสั่งไม่เพิกถอน และการสอบสวนตามมาตรา 61 ที่ได้ดำเนินการกันไปก่อนหน้านั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แน่นอนว่า พอเจอแบบนี้คนของพรรคสีน้ำเงินย่อมจะพากันออกมาโวยเป็นการเล่นงานกันทางการเมืองมากกว่า

อาจมองได้ว่า การย้ายสองอธิบดีถือเป็นการออกหมัดแย็บที่เข้าเป้า ก่อนที่จะตามมาด้วยอาวุธหนักที่หวังผลถึงขั้นน็อคเอาต์กันเลยทีเดียว กรณีสอบปมเขากระโดงยังตีคู่ขนานมากับคุณแหล่งข่าวจากกกต.ว่า ในวันเดียวกันนี้ คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางชุดที่ 26 ได้สรุปสำนวนคดีฮั้วสว.เสร็จสิ้นแล้วหลังจากได้ออกหมายเพื่อแจ้งข้อหาต่อสว.และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ทยอยเข้าชี้แจงแก้ข้อหาจนครบถ้วนกระบวนการแล้ว คณะอนุกรรมการฯได้ประชุมสรุปสำนวนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมส่งให้กกต.ชุดใหญ่พิจารณา

ตามข่าวนั้น มติของอนุกรรมการฯ เสนอให้ส่งฟ้องดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหารวม 229 ราย แบ่งเป็นสว.ที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน 138 ราย และบุคคลเกี่ยวข้อง โดยส่วนใหญ่สังกัดพรรคการเมืองชื่อดัง 91 ราย ในจำนวนนี้มีผู้บริหารพรรคดังกล่าวจำนวนมาก ตามที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ก็เห็นกันอยู่ว่าล้วนแต่เป็นแกนนำหลักของพรรคภูมิใจไทยนั่นเอง ไล่เรียงตั้งแต่อนุทิน ชาญวีรกูล รวมทั้งกุนซือสำคัญอย่าง เนวิน ชิดชอบ และแกนนำคนอื่น ปมของคนจากพรรคการเมืองยังไม่น่าลุ้นเท่า กรณีถ้ากกต.ชุดใหญ่เห็นชอบ แล้วยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง หากศาลรับฟ้องจะมีผลให้สว.ที่ถูกฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

ตรงนี้จะบอกว่าเป็นการเอาคืนกันอย่างทันควันจากกรณีที่แพทองธารถูกร้องแล้วต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยนั้น คงพูดได้ลำบาก เพราะกระบวนการทั้งหมดดำเนินการโดยกกต. ซึ่งฝ่ายรัฐบาลคงเข้าไปแทรกแซงได้ยาก ยิ่งเป็นคนจากพรรคเพื่อไทยด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เว้นเสียแต่ว่าทิศทางลมได้เปลี่ยนไปแล้วนั่นก็อีกเรื่อง อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานกกต.ได้มีการออกเอกสารข่าวชี้แจงแล้วว่า เรื่องที่เป็นข่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้ปมฮั้วสว.ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 เท่านั้นเอง

ขั้นตอนนี้เป็นชั้นของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และระยะเวลาที่ขยาย ที่จะครบกำหนดวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ สำนวนดังกล่าวจึงยังไม่ได้เสนอที่ประชุมกกต.ตามที่เป็นข่าว แม้จะจบจากขั้นตอนนี้ก็ยังเหลืออีกสองขั้นตอนกว่าจะไปถึงมือกกต.ชุดใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมว่า กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนที่เหลือนั้นไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าจะช้าหรือเร็ว เหมือนกรณีข่าวที่บอกว่ากกต.เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาร่วมคณะทำงานและมีการออกหมายเชิญสว.มาให้ปากคำ

ทั้งประธานกกต.และเลขาธิการกกต.ต่างพร้อมใจกันปฏิเสธว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว สุดท้ายในเวลาไม่นานก็มีการเรียก และเดินหน้าเรื่องนี้อย่างรวดเร็วประเด็นร้อนทางการเมืองที่ขยับกันแบบนี้ เพราะนายใหญ่ต้องการที่จะทำให้เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของเพื่อไทยไม่มีทางตัน ถ้าแพทองธารไม่ได้ไปต่อก็ยังมี ชัยเกษม นิติสิริ เป็นตัวช่วย หรือถ้าถูกบีบจนหมดทางไปก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เมื่อไปถึงจุดนั้นปลายทางของบ้านเมืองตามคำสั่งที่รับมาร่วมกันของรัฐบาลพลิกขั้ว บอกได้คำเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

อรชุน