
NEO ร่วงต่อ 4% หลังโบรกหั่นคำแนะเหลือ “ถือ” เป้าใหม่ 24.60 บาท
NEO ร่วงต่อ 4% หลังนักวิเคราะห์ปรับลดคำแนะนำเหลือ “ถือ” พร้อมหั่นราคาเป้าหมายเหลือ 24.60 บาท สะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ต่ำกว่าคาดในไตรมาสล่าสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ณ เวลา 10:50 น. อยู่ที่ระดับ 23.50 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือ 4.47% สูงสุดที่ระดับ 24.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 23.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.55 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากดูราคาหุ้น NEO บนกระดานพบว่า ร่วงลงต่อเนื่องมาติดต่อกัน 3 วันทำการจากราคาปิดวันที่ 8 ก.ค.68 อยู่ที่ 26.50 บาท จนมาถึงปัจจุบันลงไปแล้ว 11%
ขณะเดียวกันวันนี้ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ ปรับคำแนะนำหุ้น NEO ลงมาเหลือ “ถือ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 24.60 บาท
นอกจากนี้ ประเมินกำไรสุทธิของ NEO ไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 99 ล้านบาท (ลดลง 63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, และลดลง 61% จากไตรมาสก่อน ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เดิม จากรายได้ และ GPM ต่ำกว่าคาด กำไรลดลง YoY ส่งผลจาก 1) GPM ปรับตัวลดลงเป็น 38.5% จาก 46.8% จากสัดส่วนรายได้ Household ซึ่ง low margin ปรับตัวเพิ่มขึ้น, จัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Palm Kernel Oil อีกทั้งรับรู้ค่าเสื่อมโรงงานใหม่เต็มไตรมาสประมาณ 30 ล้านบาท/ไตรมาส และ 2) ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่ประมาณ 13 ล้านบาท/ไตรมาส
ด้านกำไรชะลอตัวจากไตรมาสก่อน จาก 1) รายได้รวมทรงตัวจากไตรมาสก่อน, 2) GPM ปรับตัวลดลง และ 3) SG&A to sales ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมี NPD Relaunch 100+ SKUs ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 68-69 ลง -31% และ -28% ตามลำดับเพื่อสะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวช้า และ GPM ที่ต่ำกว่าคาดจากต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยประเมินกำไรสุทธิปี 68 ที่ 659 ล้านบาท (ลดลง 35% จากงวดเดียวของปีก่อน) สำหรับปี 69 ที่ 781 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน)
ขณะที่ราคาหุ้น underperform SET -40% ใน 12 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน NEO เทรดอยู่ที่ PER 11.2 เท่าแนะนำ “ถือ” จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรชัดเจน