
โบรกพรีวิวงบ Q2 หุ้น ITC–AAI ย้ำรับเทรนด์ “อาหารสัตว์เลี้ยง” พรีเมียมโตถึงปี 70
บล.กสิกรไทย ชู ITC-AAI หุ้นเด่น Q2 แม้เจอภาษีสหรัฐฯ กดดันกำไร เชื่อระยะยาวโตแรงจากพื้นฐานแน่น รับดีมานด์อาหารสัตว์พรีเมียมปี 2570
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในอัตรา 36% ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.68 เป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการบรรลุข้อตกลงทางการค้า อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงไทยในระยะสั้น และมีมุมมองบวกในระยะยาว
ด้านภาษีศุลกากรฉุดราคา ไม่ใช่ปริมาณ เนื่องจากอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ซื้อจึงใช้วิธีหันมาซื้อสินค้าที่ราคาคุ้มค่า (large pack/private labels) ผลกระทบจากคู่แข่งอย่างเวียดนามมีจำกัด แม้ตอนนี้ไทยดูเหมือนจะเสียเปรียบอัตราภาษีศุลกากร แต่เนื่องจากการสร้างโรงงานใหม่ที่ผ่านการตรวจสอบขั้นตอนตามมาตรฐานสหรัฐ ต้องใช้เวลา 2-3 ปีทำให้แบรนด์ระดับโลกต้องพึ่งพาผู้ผลิตOEM ของไทยต่อไป
ส่วนการเติบโตครั้งใหญ่ของอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกจะเริ่มตั้งแต่ปี 2570 จากจำนวนสัตว์เลี้ยงสูงอายุที่เพิ่มขึ้นมาก การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากช่วงโควิด ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะเข้าสู่ภาวะสูงอายุตั้งแต่ปี 2570 ซึ่งจะกระตุ้นอุปสงค์อาหารเปียกระดับพรีเมียม ส่งผลดีต่อ OEM ไทยเพราะโรงงานได้มาตรฐานระดับโลกและมีกำลังการผลิตมากกว่าเวียดนามหลายเท่า การทำ R&D ร่วมกันมาทำให้การเปลี่ยนเจ้าผลิตเป็นไปได้ยาก แม้ว่าภาษีศุลกากรจะกดดันอัตรากำไรในระยะสั้น แต่คาดว่าสัดส่วนการขายอาหารเปียกพรีเมียมที่มีมาร์จิ้นมากขึ้นและการขยายตัวของการขายแบบ Autoship จะเป็นปัจจัยหนุนในระยะยาว
พรีวิว บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ไตรมาส 2/2568 ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ 219 ล้านบาท ลดลง 39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 15% จากไตรมาสก่อนหน้า และคาดว่ายอดขายจะเติบโต 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.82 พันล้านบาท จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 16% แต่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และการหันมาซื้อสินค้าที่ราคาถูกลงฉุดราคาขายเฉลี่ย (ASP)
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะอยู่ที่ 17.9% (-7.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน) เทียบกับจุดสูงสุดของปีก่อนที่ 25.7% คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ ทรงตัวที่ 5.1% คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯทรงตัวก่อนการประกาศเรื่องภาษี ขณะที่ผู้บริหารกำลังพิจารณาการส่งออกไปยุโรปเพื่อบรรเทาผลกระทบ คำสั่งซื้อล่วงหน้ายังคงปกติไปถึงเดือน ส.ค.
พรีวิว บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ไตรมาส 2/2568 ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 721 ล้านบาท ลดลง 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า ยอดขายที่ 4.67 พันล้านบาท (ลดลง 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า) จากการขนส่ง 33kt การเติบโตของปริมาณการขายถูกชดเชยด้วย ASP ที่ลดลง -11% จากสัดส่วนผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ลดลงต่ำกว่า 50% และเงินบาทแข็งค่าขึ้น GPM คาดว่าจะอยู่ที่ 24.2% (ลดลง 5.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน)
ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ที่ 9.9% (เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน) คำสั่งซื้อจากสหภาพยุโรปแข็งแกร่ง คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ ทรงตัวก่อนการบังคับใช้ภาษีศุลกากรในอัตราใหม่
โดยมีมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงในระยะสั้นเป็นหุ้นเด่นอย่าง ITC โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมาย 11.80 บาท และ AAI โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมาย 4.10 บาท แม้ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ผู้บริโภคเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่ราคาถูกลง และภาษีศุลกากรของสหรัฐฯคาดส่งผลกระทบต่อ ASP ในระยะสั้น
แต่ในระยะยาวเรามีมุมมองเชิงบวกจากแนวโน้มสัตว์เลี้ยงสูงอายุและความสามารถในการแข่งขันของไทยจากมาตรฐานโรงงานขั้นสูงและความได้เปรียบด้านปริมาณการผลิต การมีปริมาณวัตถุดิบปลาทูน่าและไก่จำนวนมาก จะทำให้ทั้งราคาขายและปริมาณขายอาหารเปียกแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป