ก.ล.ต. สั่งถอนไลเซนส์ “อุษา พูลเกิด” สังกัดแบงก์กรุงเทพ 10 ปี ฐานยักยอกเงินลูกค้า 15 ล้าน

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน “อุษา พูลเกิด” สังกัดแบงก์กรุงเทพ 10 ปี ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ หลังพบพฤติกรรมทุจริตถอนเงินจากบัญชีลูกค้ามูลค่าความเสียหายกว่า 15.1 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2564 – 2566 นางสาวอุษา พูลเกิด มีพฤติกรรมเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของลูกค้ารายหนึ่ง โดย (1) ใช้ใบถอนเงินและสำเนาบัตรประชาชนที่ให้ลูกค้าลงนามไว้เพื่อซื้อหน่วยลงทุน

และ (2) ใช้ใบถอนเงินและเอกสารประกอบการถอนเงินของลูกค้ารายอื่นที่ลงนามไว้ มาใช้ถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของลูกค้า จำนวน 18 รายการ จากนั้นนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากหรือนำไปชำระค่าเบี้ยประกันให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องของตนเอง โดยนางสาวอุษาได้บันทึกรายการในสมุดคู่ฝากที่ลูกค้ามอบไว้ ซึ่งมีรายการที่แสดงว่าเป็นการถอนเงินเพื่อนำไปซื้อหน่วยลงทุนให้แก่ลูกค้า แต่ไม่ได้ซื้อหน่วยลงทุนให้ลูกค้าจริง ทำให้ลูกค้ารายนี้ได้รับความเสียหาย เป็นเงินรวม 15.1 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพได้ตกลงกับลูกค้าและได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ลูกค้ารายดังกล่าวแล้ว

โดยก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวอุษาเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน ซึ่งทั้งสองกรณีเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจ

ดังนั้นตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน* ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารทั่วไป** และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวอุษาเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2568

ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุนและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรฝากหรือลงนามเอกสารสำคัญประกอบการทำธุรกรรม เช่น ใบถอนเงิน บัตรประชาชน สมุดคู่ฝาก เป็นต้น ให้ผู้แนะนำการลงทุนทำรายการแทนให้ เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดจากการทุจริต

หมายเหตุ :

* เป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ 23(1) เป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 48/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

** ผู้แนะนำการลงทุนตราสารทั่วไป (IC Plain) หมายถึง ผู้แนะนำการลงทุนที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่ไม่มีความซับซ้อน

*** หมายความว่า หากนางสาวอุษามายื่นคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในช่วงระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ก.ล.ต. จะไม่รับพิจารณาคำขอดังกล่าวของนางสาวอุษา

Back to top button