
DIT เร่งพยุงราคาลำไย รับซื้อ 1 แสนตัน หนุนเกษตรกรผลผลิตล้นตลาด
กรมการค้าภายในเดินหน้าแผนพยุงราคาลำไย จับมือสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือรับซื้อ 100,000 ตัน โดยกำหนดราคาขั้นต่ำที่กิโลกรัมละ 13 บาท และ 6 บาทตามลำดับ หวังช่วยผลผลิตลำไยเกษตรกรไทยล้นตลาด เพิ่มโอกาสจำหน่ายในราคาที่ดีขึ้น
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่จังหวัดลำพูนเพื่อติดตามโครงการช่วยเหลือลำไยในฤดูกาลผลิตปี 2568 โดยเฉพาะกลุ่มลำไยรูดร่วงเกรด AA และ A ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก คาดว่าผลผลิตรวมฤดูกาลจะอยู่ที่ประมาณ 740,000 ตัน และในเดือนสิงหาคมจะมีปริมาณมากถึง 400,000 ตัน
กรมการค้าภายในจึงร่วมกับสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ เริ่มดำเนินการรับซื้อผลผลิตลำไยรูดร่วงเกรด AA ในราคาขั้นต่ำกิโลกรัมละ 13 บาท โดยมีการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 3 บาท/กก. และเกรด A ในราคาขั้นต่ำ 6 บาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการ 2 บาท/กก. ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1–20 สิงหาคม 2568 โดยมีเป้าหมายรับซื้อรวม 100,000 ตัน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือเกษตรกรในการทยอยเก็บเกี่ยวลำไยอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิต และไม่ต้องเร่งรีบขายในราคาต่ำ โดยราคาที่โรงร่อนอยู่ที่ 12 บาท (เกรด AA) และ 5 บาท (เกรด A) ขณะที่โรงงานอบลำไยจะรับซื้อในราคา 13 และ 6 บาท ตามลำดับ ยืนราคานี้อย่างน้อย 20 วัน
สำหรับลำไยเกรด B กรมฯ ได้เริ่มดูดซับผลผลิตตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และยังคงดำเนินมาตรการเชื่อมโยงตลาดภายในประเทศ ทั้งกับห้างค้าปลีก ค้าส่ง และกิจกรรมพรีออเดอร์ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน
มาตรการทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการผลไม้ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยเน้นแนวคิด “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรและรักษาเสถียรภาพของราคาผลผลิต
ด้าน นายธนกฤต ตันวัฒนากุล นายกสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งภาคเหนือ กล่าวว่า สมาคมฯ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของกรมการค้าภายในอย่างเต็มที่ โดยยืนยันว่า ราคาลำไยเกรด AA ปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 7 บาท เป็น 13 บาท สะท้อนถึงความสำเร็จของมาตรการในการยกระดับราคาผลผลิตอย่างเป็นรูปธรรม
กรมการค้าภายในยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อดูแลราคาลำไยให้เป็นธรรมกับเกษตรกร โดยไม่กระทบต่อกลไกตลาด