สายสีม่วงคืบ 59%! “สุริยะ” เร่งเปิดปี 71–73 พร้อมลุยรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ใช้ 1 ต.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค.68) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีเริ่มเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ

นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้เริ่มเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์เรียบร้อยแล้ว เป็นการเจาะอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระปกเกล้า ซึ่งถือเป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านโยธาล่าสุด 59.49% ซึ่งเร็วกว่าแผนที่ตั้งเป้าไว้ 51.52%  คาดว่าขั้นตอนการขุดเจาะอุโมงค์จะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2569

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการช่วงเตาปูน–หอสมุดแห่งชาติ ได้ในปี พ.ศ. 2571 และทยอยเปิดให้บริการตลอดเส้นทางครบทั้งสายภายในปี พ.ศ. 2573

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.63 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน 14.29 กิโลเมตร สถานีใต้ดิน 10 สถานี และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ 9.34 กิโลเมตร สถานียกระดับ 7 สถานี มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) และรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน)

นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ตนได้เน้นย้ำให้กรมการขนส่งทางราง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้รับเหมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในงานก่อสร้างอย่างเคร่งครัด พร้อมจัดการจราจรช่วงก่อสร้างให้เหมาะสม พร้อมมีแผนและมาตรการรับมือช่วงฤดูฝนป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่ก่อสร้าง ควบคู่กับมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คุณภาพอากาศ และฝุ่นละออง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและปลอดภัยแก่ประชาชน

กระทรวงคมนาคมพร้อมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อพฤติกรรมการเดินทางของประชาชน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่องสู่ทุกภูมิภาค

นายสุริยะ ยืนยันในส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสาย จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ประกาศไว้อย่างแน่นอน โดยกระทรวงคมนาคม จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ“ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 00:01 น. เป็นต้นไป โดยจะเริ่มใช้นโยบายดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 250,000 คนต่อวัน จากระดับปัจจุบันราว 150,000 คนต่อวัน