คอคอดกระ

จากความเห็นของยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ที่ต้องการให้คนหันมาสนใจโครงการ “แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง


จากความเห็นของยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ที่ต้องการให้คนหันมาสนใจโครงการ “แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ซึ่งเป็นโครงการที่จะมาแทนไอเดียในอดีตที่จะ “ขุดคอคอดกระ” บริเวณด้ามขวานที่แคบที่สุดของประเทศไทยเพื่อให้เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งจากทะเลฝั่งอันดามันมหาสมุทรอินเดียมาโผล่อ่าวไทยได้โดยไม่ต้องอ้อมไปสิงคโปร์นั้น เป็นการกระตุ้นกระแสการหวงแหนผืนดิน การต้องการปกป้องแผ่นดินให้ยังคงมีสถานะเป็น “สมบัติของชาติ” ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน ทีนี้เรื่องการปกป้องผืนดิน หรือการโดนรุกรานมาแย่งผืนดินไปอาจไม่ได้มีแค่ปัญหาตรงชายแดน หรือเรื่องการรบการสงครามเท่านั้น แต่การรุกรานและการสูญเสียอธิปไตยอาจมาในรูปแบบอื่น ๆ ได้ด้วย

ตัวอย่างเช่น โครงการแลนด์บริดจ์ และพ.ร.บ. ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC.) ที่จะเกิดขึ้นที่ระนอง-ชุมพร จังหวัดแห่งการรักสงบที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและไม่ค่อยมีเรื่องมีราวกับใคร เมื่อก่อนโครงการนี้เรารู้จักกันในนามการขุดคอคอดกระ แต่สมัยโบราณมีคนคัดค้านกันมาก นอกจากค่าใช้จ่ายที่มหาศาลแล้ว ปัญหาก็คือเรื่องอธิปไตย เพราะบางคนเคยกลัวว่า เมื่อขุดคลองผ่ากลางด้ามขวานแล้ว จะทำให้ประเทศไทยถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนไม่เชื่อมต่อกัน และบางคนกลัวว่าจะกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตย

แม้ว่าตอนนี้ไอเดียขุดคลองจะเปลี่ยนไปแล้ว ไอเดียจะเป็นอย่างอื่นมาแทน คือ การทำทางเชื่อมระหว่างสองฝั่งทะเล ผ่ากลางคอคอดที่แคบที่สุดของประเทศไทย เป็นมอเตอร์เวย์ 6 เลน รถไฟรางคู่ เรียกสิ่งนี้ว่า “แลนบริดจ์” โดยมีท่าเรือขนาดใหญ่สองฝั่ง ขนของขึ้นจากท่านึงแล้ววิ่งตรงไปลงอีกท่านึง ระยะทางเกือบ ๆ 100 กิโลเมตร ซึ่งก็เป็นการผ่าประเทศไทยออกเป็นสองส่วนอยู่ดี โดยมีถนนขนาดใหญ่คั่นกลาง

ยิ่งชีพกล่าวว่าเขาไม่ได้อินเรื่องการเสียอธิปไตยมากนัก เพราะถึงสร้างอันนี้เสร็จก็ไม่คิดว่ามาเลเซียจะบุกมาจากทางใต้แล้วตียึดเอาภาคใต้มาจนถึงช่วงถนนมอเตอร์เวย์แลนด์บริดจ์ แต่ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีรายละเอียดที่น่ากลัวมากกว่านั้น

พ.ร.บ.SEC จะให้สร้างโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม “อะไรก็ได้” และ “อย่างไรก็ได้” บริเวณนั้น โดยให้ยกเว้นกฎหมายทั้งหมด เช่น ถ้าเดิมเป็นพื้นที่ป่าก็ให้ยกเว้นเอาที่ดินไปสร้างโรงงานได้ ถ้าเดิมเป็นที่ราชพัสดุก็ให้ยกเว้นเอาที่ดินไปสร้างโรงงานได้ ถ้าเดิมเป็นที่สปก. จัดสรรเพื่อการเกษตรก็ให้ยกเว้นเอาที่ดินไปสร้างโรงงานได้ ถ้าเดิมผังเมืองบอกว่าเป็นพื้นที่สีเขียวก็ให้ยกเว้นเอาที่ดินไปสร้างโรงงานได้ เปลี่ยนพื้นที่เป็นสีม่วงได้เลย

โดยกลุ่มเป้าหมายจะให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน และการลงทุนได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ร่วมทุนในกิจการของรัฐ ที่จะกำกับดูแลเอกชนไม่ให้รัฐเสียประโยชน์ และให้ยกเว้นประมวลกฎหมายที่ดิน ให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ เช่าที่ดินได้ 99 ปี ให้คนต่างชาติมาทำอาชีพสงวนของคนไทยได้ เข้าเมืองและได้รับอนุญาตทำงานตามกฎหมายพิเศษไม่ใช่กฎหมายปกติ และอาจจะได้รับยกเว้นภาษีด้วย

ยิ่งชีพโยนคำถามว่า “แบบนี้เราต้องห่วงเรื่องอธิปไตยไหมครับ??”

ถ้าลองจินตนาการแบบเลวร้ายสุด ๆ ที่มันยังไม่เกิด ก็คือที่ดินแถบนั้นหลายหมื่นไร่ตรงที่แคบที่สุดของประเทศไทย ที่ตอนนี้เป็นทะเลสวย เป็นพื้นที่ปลูกทุเรียน อาจกลายเป็นของทุนจีนสีเทาถือกรรมสิทธิ์กันไปหมด แทนที่พื้นที่อุทยานแห่งชาติเดิม หรือพื้นที่สงวนชีวมณฑลเดิม ที่เป็นของรัฐของประเทศชาติ ไม่ใช่ของประชาชนด้วย

ถ้าเอาแนวคิดชาตินิยมและการรักชาติมามอง โครงการอันนี้เลวร้ายกว่าพื้นที่พิพาทกับกัมพูชาเสียอีก เลวร้ายในระดับที่อาจจะเสียผืนดินจริง ๆ ในปริมาณมหาศาลเสียด้วย ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญมาก ๆ บนแผนที่ด้วย ถ้าเสียให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ก็คือเสียตลอดไป เอาทหารไปตีคืนมาก็ไม่ได้

เขาไม่ได้อินมากนักเรื่องอธิปไตยระหว่างประเทศ แต่รู้สึกมากเรื่องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ทะเลและป่าไม้ที่อาจจะเสียไปเป็นช่องถนนมอเตอร์เวย์และรางรถไฟ เมื่อเสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับมา ไม่สามารถเอางบประมาณลงไปแก้ไขฟื้นฟูได้อีกต่อไป ยิ่งชีพกล่าวว่าเขาอินเรื่องวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ที่ตอนนี้ปลูกสวนยาง สวนปาล์ม สวนมังคุด สวนทุเรียน อยู่ท่ามกลางอากาศดีกลางป่าเขา อาจจะต้องเตรียมขายที่ย้ายหนีให้ทุนจีนและโรงงานเข้ามาตั้ง

เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก เป็นโครงการที่ครม.อนุมัติมาสมัยประยุทธ์ปี 2561 และค่อย ๆ ศึกษาผลกระทบ และต่อสู้คัดค้านกันมา โดยรายงานผลกระทบออกมาแล้ว ใกล้จะเสร็จแล้ว อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายว่าครม. ชุดนี้จะเคาะหรือไม่ ครม.ชุดเศรษฐาเหมือนจะเห็นดีเห็นงามด้วย ส่วนชุดนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยปกติ ดูแล้วไม่รู้จะออกหน้าไหน แต่อยากให้ “คนรักชาติ” ทั้งหลายสนใจเรื่องนี้ด้วย เมื่อหวงแหนแผ่นดิน ทรัพยากรและอธิปไตย แนวรบอาจไม่ได้มีแค่แนวรบด้านอาวุธชายแดนกัมพูชาเท่านั้น มีอีกหลายแนวให้ช่วยกันสนใจ

ในความเห็นของยิ่งชีพ แม้จะดูเหมือนการตีตนไปก่อนไข้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะแม้ว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลแต่ก็เหมือนการชักศึกเข้าบ้าน  ที่สำคัญผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์โดยตรงคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีนและไต้หวัน ที่จะได้รับประโยชน์จากการย่นเวลาขนถ่ายน้ำมันและสินค้าอื่น ๆ ลง 3-4 ชั่วโมง  และชาติเหล่านี้จะหาทางมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลไทย หากรัฐบาลไทยยังอยู่ในสภาพอ่อนแอเช่นนี้ 

ในความเห็นของผู้เขียน หากโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง จะเกิดขึ้นจริง พ.ร.บ.SEC จะต้องผ่านการแก้ไข กฎหมายคุ้มครองแรงงานไทยรวมทั้งนักลงทุนไทยจะยังคงต้องบังคับใช้อยู่ด้วย บริษัทที่เข้ามาลงทุนในโครงการนี้จะต้องจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เป็นบริษัท จำกัด (มหาชน) ที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย

Back to top button