
EGCO รักษาเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ระดับ “AA” แนวโน้มคงที่ ตอกย้ำฐานะแกร่ง
EGCO รับอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิฯ ที่ระดับ “AA” จากทริสเรทติ้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ตอกย้ำสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง พอร์ตโรงไฟฟ้าคุณภาพ และกระแสเงินสดมั่นคงระยะยาว
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA” และอันดับเครดิตตราสารหนี้ ได้แก่ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ “AA” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” (คงที่) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากทริสเรทติ้ง สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำ ในประเทศไทย ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อ EGCO Group ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องชั้นนำ ระดับสากลที่อยู่ในกลุ่มน่าลงทุน (Investment Grade) จากพื้นฐานพอร์ตโฟลิโอธุรกิจไฟฟ้าที่แข็งแกร่งและกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว
นายสมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group กล่าวว่า เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งได้พิจารณาจัดอันดับเครดิตของ EGCO Group อยู่ที่ระดับ “AA” และแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งเป็นการคงอันดับเครดิตเช่นเดียวกับปี 2567 สะท้อนถึง สถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งของบริษัทในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ ซึ่งมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวนมากและหลากหลาย ทั้งด้านประเภทการผลิต ชนิดของเชื้อเพลิง และทำเลที่ตั้ง รวมกำลังผลิตกว่า 6,700 เมกะวัตต์ ซึ่งช่วยสร้างกำไรให้บริษัทอย่างมีเสถียรภาพ ควบคู่กับการเสริมสร้างศักยภาพในการลงทุนให้แก่บริษัท การพิจารณาอันดับเครดิตยังครอบคลุมไปถึงกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับผู้ซื้อไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถืออีกด้วย ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ากระแสเงินสด ที่แข็งแกร่งและความสามารถในการเข้าถึงตลาดทุนของบริษัทจะช่วยรองรับการลงทุนของบริษัทได้อย่างเพียงพอ
“การคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ “AA / Stable” ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อ EGCO Group ในฐานะบริษัทที่อยู่ในกลุ่มน่าลงทุน (Investment Grade) ซึ่งดำเนินธุรกิจไฟฟ้าอย่างมั่นคงและมีสภาพคล่องที่แข็งแรง ท่ามกลางความผันผวนของอุตสาหกรรมพลังงานและเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ EGCO Group ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างรอบด้านผ่านกลยุทธ์ “Triple P” ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอ และองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” นายสมเกียรติ กล่าว