
“กัณฑรา” มอง SET พักฐานระยะสั้น แนะสะสมหุ้นรับ “ดอกเบี้ยขาลง-ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า”
“กัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา” ประเมินตลาดหุ้นไทยพักฐานหลังปรับขึ้นแรง มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เพื่อเตรียมรับรอบขาขึ้นถัดไป
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (15 ส.ค.68) ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบรรยากาศคึกคัก ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดราว 1,050 จุด จนแตะโซนปัจจุบัน ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการพักฐานระยะสั้นเพื่อปรับสมดุล หลังจากที่หุ้นขนาดใหญ่ซึ่งเป็นตัวนำตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรจากกองทุนในประเทศ และแรงขายเล็กน้อยจากนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ มองว่าการพักฐานดังกล่าวเป็นเพียงการ “ถอยมาเพื่อรับ” ไม่ใช่สัญญาณเชิงลบต่อโครงสร้างตลาด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,264 จุด และแนวถัดไปที่ 1,260, 1,250 และ 1,240 จุด แม้จะมีการปรับลงถึง 1,230 จุดก็ยังถือว่าไม่เสียรูปแบบรอบนี้ ซึ่งเป็นเพียงการลดความร้อนแรงหลังดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่อง และเป็นโอกาสให้ผู้ที่พลาดรอบก่อนกลับเข้าสะสมหุ้นเพื่อการลงทุนในรอบถัดไป
สำหรับปัจจัยหนุนระยะกลาง มองว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยล่าสุด รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ 6-7 แห่ง ช่วยลดต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและผู้กู้ เพิ่มโอกาสการลงทุนและการใช้จ่าย ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายน
ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยจะเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มต้นทุนการเงินสูง กลุ่มปล่อยสินเชื่อ เช่น MTC และกลุ่มที่มีมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐาน (Under Value) เช่น SISB และ GULF ซึ่งยังมีส่วนต่างระหว่างราคาตลาดกับราคาเป้าหมายค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ ประเด็นการเมืองในประเทศที่ยังรอความชัดเจน โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่มีกำหนดวันตัดสินสำคัญ อาจทำให้ตลาดเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์เพื่อรอดูทิศทาง แต่หากสถานการณ์คลี่คลายชัดเจน ไม่ว่าจะในทิศทางใด เชื่อว่าตลาดจะสามารถปรับขึ้นต่อได้ เนื่องจากความไม่แน่นอนจะเปลี่ยนเป็นความเสี่ยงที่สามารถบริหารจัดการได้
ขณะที่ส่วนของฟันด์โฟลว์ต่างชาติ ยังมองว่ามีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง สะท้อนจากปริมาณการซื้อขายที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 50,000-60,000 ล้านบาทต่อวัน จากค่าเฉลี่ยปกติราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งหากดัชนี SET ปรับตัวขึ้นต่อ อาจได้รับการพิจารณาเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น
ทั้งนี้นักลงทุนควรใช้ช่วงพักฐานนี้ในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เพื่อเตรียมรับรอบขาขึ้นถัดไป โดยยังคงให้น้ำหนักเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในครึ่งหลังปี 2568 ภายใต้เงื่อนไขที่ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจโลกไม่ส่งผลกระทบเชิงลบเพิ่มเติม