
จับตา 9 หุ้นวิ่ง! หลัง “อินเดีย” ลดภาษีรับมือเทรดวอร์ ชู IVL-GPSC-PTTGC เด่น
“บล.กรุงศรี” เปิด 9 หุ้นเด็ดรับข่าวรัฐบาลอินเดียลดภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ (GST) รองรับผลกระทบภาษีทรัมป์ จากสินค้าส่วนใหญ่ที่เก็บภาษี 12-28% ลดลงเหลือ 5% และ 18% แนะนำกลุ่มรับประโยชน์ทางตรง IVL-PTTGC-GPSC ส่วนรับทางอ้อม ERW-CENTEL-MINT-CPAXT-CPF และ TU
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี รัฐบาลนายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย เตรียมปรับโครงสร้างภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ (GST) จาก 4 ระดับ เหลือเพียง 2 ระดับคือ 5% และ 18% โดยจะเริ่มมีผลในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีจำกัด เนื่องจากการส่งออกของอินเดียคิดเป็นเพียง 20-23% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ทั้งนี้ อินเดียมีโครงสร้างภาษี GST ที่ซับซ้อน โดยแบ่งเป็น 4 อัตราหลัก คือ 5%, 12%, 18% และ 28% การเปลี่ยนแปลงที่เสนอครั้งนี้ จะลดจำนวนหมวดภาษีเหลือเพียง 2 หมวด โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่เคยถูกเก็บภาษีที่ 12% และ 28% จะถูกปรับลดลงมาอยู่ที่อัตรา 5% และ 18% ตามลำดับ
โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการดังกล่าว ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL โดยมีรายได้จากอินเดียราว 10%, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายได้จากอินเดียราว 4% และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC มีสัดส่วนการลงทุนในอินเดียราว 30% ของ Equity MW และสร้างกำไรราว 14%
ส่วนกลุ่มหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม เช่นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW สัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวอินเดียราว 8%, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL สัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวอินเดียราว 5% บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ต่ำกว่า 5%
ด้านกลุ่มค้าปลีก เช่น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, กลุ่มอาหาร-เกษตร เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU
สำหรับมุมมองเชิงกลยุทธ์ มองว่า มาตรการปรับลด GST ของรัฐบาลอินเดีย ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นไทยที่มีรายได้เชื่อมโยงกับตลาดอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี-พลังงาน และท่องเที่ยว-โรงแรม ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการบริโภคและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น