ดาวโจนส์พารวย!

ต้องยอมรับว่า ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จากกาปรับตัวขึ้นดัชนีดาวโจนส์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ล้อไปกับการที่เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง


ต้องยอมรับว่า ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นดัชนีดาวโจนส์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ล้อไปกับการที่เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง จึงทำให้เชื่อว่า จะมีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก และทำให้ดัชนีดาวโจนส์ทำนิวไฮแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนักลงทุนฮึกเหิมอย่างเห็นได้ชัดนะซี

น่าแปลกใจตรงที่นักลงทุนต่างชาติดันกลายเป็นคนขายหุ้นอย่างสนุกมือ ขณะที่นักเล่นกลุ่มอื่นอย่าง “กองทุน” กับ “รายย่อย” กลับกระโจนใส่หุ้นมือเป็นระวิง จนดัชนีเมื่อวันศุกร์บวกไปถึง 15 จุด ส่วนวานนี้กลายเป็นกองทุนซื้อหนักคนเดียว พร้อมกับดันดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,262.67 จุด บวกไป 9.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.99 หมื่นล้านบาท ก็ทำให้นักเล่นมีความหวังว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดในไม่ช้านะออเจ้า

ขนาดหุ้นที่ไม่ค่อยได้เห็นโชว์พลัง ก็กลับมาเฉิดฉายหลายตัวด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ GPSC ซึ่งพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 40 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 855 ล้านบาท ทั้งที่ 2 สัปดาห์ก่อนยังมีอาการขาสั่น “โมนิก้า” เลยมองว่า เที่ยวนี้น่าจะเป็นเกมยาวของพวกนักลงทุนสถาบัน เพราะแรงกดดันเรื่องต้นทุนดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเชื่อได้ว่า กำไรในไตรมาส 4 ปี 68 จะออกมาดีเจ้าค่ะ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น BGRIM เป็นรายถัดมาในทันที หลังราคาหุ้นไต่ระดับอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 12.80 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 675 ล้านบาท ก็มีสตอรี่คล้ายกับรายข้างต้น แต่ที่น่าสนใจมากกว่าอยู่ตรงโปรเจกต์โรงไฟฟ้ายังมีออกมาให้เห็นเนือง ๆ แถมนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าสูงสุดในปี 68 อยู่ที่ 22 บาทแบบนี้..ก็ลุยซิ รออะไรคะ

ส่วนรายที่เริ่มไล่ราคาใหม่อย่าง PLANB ก็เป็นช็อตที่น่าสนใจสำหรับขาลุย เพราะเมื่อดูราคาสูงสุดรอบก่อนที่ขึ้นไปบริเวณ 5.85 บาท เทียบกับการยืนปิดที่ระดับ 4.98 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165 ล้านบาท มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเกาะติดขอบเวทีการเล่นเที่ยวนี้จริง ๆ แถมวอลุ่มซื้อเข้ามาต่อเนื่องเสียด้วย เลยคาดหวังราคาสูงสุดเที่ยวก่อนคงไม่ไกลเกินเอื้อมจ้า!

เช่นเดียวกับสถานการณ์ของเจ้าพ่อทวงหนี้ JMT ก็มีมุมให้ตามไปดูด้วยเช่นกัน เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 372 ล้านบาท มันเป็นการขึ้นวันแรกเท่านั้นเอง และเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่ขึ้นไปแถว 12.70 บาท ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้ขาลุยได้ลุ้นอีกรอบ หรือมองในมุมของ BV ที่อยู่ในระดับ 18.53 บาท ก็มีมุมให้หุ้นไปต่ออีกครั้ง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับบรรยากาศจะเป็นใจแค่ไหนนะจ๊ะ

สำหรับรายที่ขึ้นดีเหลือเกินต้องมองไปที่หุ้น ITC แบบไม่ต้องลังเลใจ เพราะตั้งแต่เริ่มมีความหวัง และมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องภาษีทรัมป์ ราคาหุ้นก็ไต่ระดับจากบริเวณ 12 บาทขึ้นมาเรื่อย ๆ จนวานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 15.10 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242 ล้านบาท อีฉันย่อมเชื่อว่า ราคาหุ้นไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้! เพราะราคาเป้าที่นักวิเคราะห์ให้ไว้แบบดีสุด ๆ อยู่ที่ 22 บาทนะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับมาดูหุ้น WHA อีกครั้ง เพราะหลังจากคลายกังวลเรื่องย้ายฐานผลิต อันเป็นผลมาจากภาษีทรัมป์ที่เดิมทีคิดว่า ไทยอาจโดนรีดภาษีอย่างหนัก แต่เอาเข้าจริงก็เท่ากับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่ง พวกขาลุยเลยกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นตัวนี้อีกครั้ง วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 3.72 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 533 ล้านบาทไงล่ะคะ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button