เมื่อมีหวัง..ก็ต้องเล่น

ถ้าดูกันตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยกลับมาอยู่ในจุดที่นักลงทุนกล้าเล่นอีกครั้ง เพราะดัชนีลงมาแตะที่ระดับ 1,230 จุดปุ๊บ ต่อจากนั้นก็เด้งกลับทันที


ถ้าดูกันตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยกลับมาอยู่ในจุดที่นักลงทุนกล้าเล่นอีกครั้ง เพราะดัชนีลงมาแตะที่ระดับ 1,230 จุดปุ๊บ ต่อจากนั้นก็เด้งกลับทันที ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดว่า แนวรับสำคัญยังทำหน้าที่ประคองดัชนีได้อย่างยอดเยี่ยม ผนวกกับนักเล่นมีความหวังต่อโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาชั่วคราว เลยพากันเชื่อว่า ของใหม่ย่อมดีกว่าของเก่า จึงกล้าลุยหุ้นไงล่ะคะ

ประเด็นดังกล่าวถูกตอกย้ำด้วยการอ่อนตัวของดัชนีตั้งแต่เปิดเทรด แต่หลังจากนั้นก็ตีกลับขึ้นมาในแดนบวก พร้อมกับยืนปิดไปที่ระดับ 1,244.48 จุด บวกไป 7.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการฉายภาพความมั่นใจในการลงทุนกลับมาอีกครั้ง แถมแรงซื้อที่เข้ามาเที่ยวนี้กระจายไปในหุ้นหลายตัว จึงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หมดยุคหุ้นการเมืองแล้วอะป่าว?..อิอิอิ

เจ๋งสุด ๆ คือแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้น CPALL จนราคาหุ้นที่เคยทำท่าจะลงยาวกลับพลิกตัวขึ้นมายืนในแดนบวก ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 45 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.15 พันล้านบาท ก็เป็นไฮไลต์ที่ทำให้อีฉันต้องหันมามองหุ้นตัวนี้แบบเต็ม ๆ เพราะเที่ยวก่อนก็ลงมาแบบนี้ ต่อจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นไปถึง 48.50 บาท จึงอยากรู้เหมือนกันว่า เที่ยวนี้จะทำได้เหมือนเที่ยวก่อนหรือเปล่า?

เช่นเดียวกับในรายของ HMPRO ก็เด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.55 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 896 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเด้งกลับขึ้นมาใกล้ไฮเดิมที่บริเวณ 7.85 บาทแบบนี้ “โมนิก้า” ก็อยากรู้เหมือนกันว่า เที่ยวนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน? เพราะที่ราคาหุ้นลงมาหนัก ๆ ล้วนมาจากความกังวลเกี่ยวกับกำไรไตรมาส 3 จะออกมาไม่ดี เพราะโดนทั้งเรื่องโลว์ซีซั่น และกำลังซื้อถดถอยนะซี

ส่วนรายที่น่าสนใจในแง่ของการต่อยอดธุรกิจด้วยการเทกโอเวอร์ คงต้องมองไปที่หุ้น CPAXT หลังส่งบริษัทลูกเข้าไปถือหุ้นบริษัท Renewed Hopeในประเทศมาเลเซีย และอย่างที่รู้กันโดยทั่วไปว่า การได้แบรด์ Lucky Frozen ซึ่งทำธุรกิจนำเข้า ผลิต และจำหน่ายอาหารให้กับลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ห้างค้าปลีก และค้าส่งในประเทศดังกล่าว ก็เหมือนเป็นการปั๊มรายได้ให้กับบริษัทเต็ม ๆ อีฉันเลยมองการยืนปิดของหุ้นที่ระดับ 18 บาท น่าสนใจก็เท่านั้นเอง!

สำหรับรายที่น่ามองอีกตัวก็คือ CRC หลังขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 22.70 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 635 ล้านบาท มันเป็นการสลัดภาพอาการไปต่อไม่ไหวอย่างสิ้นเชิง และเมื่อดูจากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้แถว 40 บาท ก็เป็นอะไรที่ว้าวมาก ๆ เพราะเหมือนเป็นการเปิดช่องให้นักเล่นใส่กันยาว ๆ แต่ผลลัพธ์จะออกมาตามที่คาดหวังขนาดไหน? ต้องไปดูกันเอาเองนะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น AWC เป็นรายถัดมา เพราะเมื่อดูตามหน้าเสื่อจะเห็นว่า วานนี้แรงซื้อกลับมาซื้อใหม่เยอะจริง ๆ หุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.32 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาทอีกครั้ง และก็มีคำถามตามหลังมาเหมือนเดิมว่า เที่ยวนี้หุ้นจะวิ่งฝ่ายอดเดิมที่บริเวณ 2.74 บาทได้หรือเปล่า? เพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับงบไตรมาส 3 อยู่นะจ๊ะ

ส่วนรายที่น่าจะคัมแบ็กได้แบบสุดซอย “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นอาหารหมาแมวอย่าง ITC เพื่อชี้ให้เห็นแรงกดดันเรื่องภาษีทรัมป์ได้มลายหายไปหมดแล้ว จึงเชื่อว่า ราคาหุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปหาราคาเหมาะสมในไม่ช้า เพราะผลงานไตรมาส 2 ทำได้ดี และมีสิทธิ์ที่ผลงานไตรมาส 3 และ 4 จะออกมาดีเช่นกัน อีฉันเลยมองการยืนปิดที่ระดับ 15.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 152 ล้านบาทเหมาะสมทุกประการจ้า

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button