
พาราสาวะถี
ภายในสัปดาห์นี้ จะมีบทสรุปเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แง่หลักการคือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา คาดว่าจะสามารถประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ เลือกผู้นำประเทศได้ภายในวันที่ 4-5 เมษายนนี้
ภายในสัปดาห์นี้ จะมีบทสรุปเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แง่หลักการคือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา คาดว่าจะสามารถประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ เลือกผู้นำประเทศได้ภายในวันที่ 4-5 เมษายนนี้ ในทางปฏิบัติ จะได้ตัวนายกฯ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำตอบของพรรคประชาชน 143 เสียง จะหนุนใครให้สมหวัง ระหว่าง ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตจากเพื่อไทย กับ อนุทิน ชาญวีรกูล จากภูมิใจไทย ถ้าตัดสินใจไม่ซ้ายหรือขวา ทุกอย่างก็เอวัง!
มันจะเป็นการเดินเข้าสู่ ภาวะสูญญากาศทางการเมือง เพราะไม่มีขั้วการเมืองไหนที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ จะส่งผลให้ ภูมิธรรม เวชยชัย ทำหน้าที่รักษาการแทนนายกฯ พร้อมรัฐบาลชั่วคราวต่อไปเรื่อย ๆ บนคำถามที่ว่า สามารถยุบสภาได้หรือไม่ ในข้อกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดไว้ด้วยว่าจะต้องเลือกนายกฯ ช้าเร็วขนาดไหน ในเมื่อไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลรักษาการสามารถคืนอำนาจให้ประชาชนหรือไม่ สุดท้ายคงหนีไม่พ้นการส่งตีความ หากองค์กรที่มีอำนาจไม่รับอีกคราวนี้ก็ยุ่งไปกันใหญ่
ความน่าสนใจต่อกรณีที่ว่า ถ้าพรรคสีส้มตัดสินใจเลือกหนุนฝั่งใดฝ่ายหนึ่ง สถานะของคนที่เป็นนายกฯ จะนำพารัฐบาลเดินได้แข็งแรงแค่ไหน นึกถึงภาพการพิจารณาข้อกฎหมายต่าง ๆ ในสภาฯ คงจะวุ่นวายไม่น้อย ในเมื่อเงื่อนไขของพรรคประชาชนก็คือ หนุนให้ตัวบุคคลที่เป็นแคนดิเดตได้เป็นนายกฯ แต่ไม่ร่วมรัฐบาล เท่ากับว่าเมื่อเลือกผู้นำประเทศได้แล้ว พรรคที่จับมือกันตั้งรัฐบาลได้ในแง่เสียงจะง่อนแง่น มองให้ลึกลงไปอีก เหมือนเป็นการเปิดประตูกว้างให้เกิดการแจกกล้วยแลกเสียงโหวตกันอย่างรุนแรง
ไม่มีความซับซ้อนใด ๆ เพื่อไทยจากเดิมหากไม่เกิดการแตกขั้ว หรือพวกแปรพักตร์ เสียงของรัฐบาลจะอยู่ที่ 253 เสียง ไม่นับรวมบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อย และพวกที่คอยรับกล้วยแลกการยกมือเป็นคราว ๆ ไป ถ้าจับมือกันแน่นก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่พอไม่เป็นเช่นนั้น จึงจำเป็นต้องโร่ไปของ้อขอคืนดี และพร้อมรับทุกเงื่อนไขจากพรรคสีส้ม บนความคาดหวังที่ว่าหากพิจารณาจากดีเอ็นเอทางการเมืองแล้ว น่าจะเข้ากันได้ดีกว่าพรรคสีน้ำเงินเป็นไหน ๆ
โดยลืมไปว่าการตระบัดสัตย์ พลิกขั้ว ฉีกทิ้งเอ็มโอยูที่ทำข้อตกลงร่วมกันไว้หลังเลือกตั้งปี 2566 นั้น เป็นบาดแผลที่คนของพรรคสีส้มจดจำ แต่ขึ้นชื่อว่าการเมืองต่อให้มีความเป็นรุ่นใหม่ หรือพยายามจะก้าวข้ามวิถีการเมืองแบบดึกดำบรรพ์อย่างไร ความเป็นจริงก็ยังมีบางความเคลื่อนไหวที่ต้องแลกเปลี่ยนกันอย่างลับ ๆ เพื่อประคับประคองความอยู่รอดของครอบครัวบนเส้นทางที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง นั่นจึงเป็นอีกปัจจัยที่จะถูกนำไปชี้วัดว่า เลือกหนุนใครแล้วประโยชน์ที่ได้คืนกลับมาคุ้มทั้งต่อพรรคพวกและบุคคลบางคนหรือไม่
ส่วนการประเมินความเสียหายของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ถือว่าได้เทหมดหน้าตักไปแล้วนั้น ต้องรอดูผลการคดีชั้น 14 ที่ศาลจะตัดสินในวันที่ 9 กันยายนนี้ หากต้องกลับไปเข้าซังเตคงต้องถึงคราววางมืออย่างถาวร จากเดิมที่ได้วางทิศทางการเมืองไว้ แม้ตัวเองจะต้องคำสั่งให้รับโทษก็ตาม นั่นเป็นสมมติฐานบนแนวทางที่ว่าเพื่อไทยยังคงเป็นรัฐบาล และมีอำนาจเต็มที่ พอสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างนี้ จึงต้องปรับกลยุทธ์กันขนานใหญ่ แต่เบื้องต้นมองกันไว้ว่าไม่น่าจะถึงขั้นพรรคแตก ต้องแยกย้ายคนละทิศละทาง
ขณะที่การขึ้นเป็นนายกฯ ของอนุทิน หากได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะทำให้เกิดเสถียรภาพและเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคงได้อย่างไร การเปลี่ยนฐานะจากที่เคยขี่คอ ขออะไรก็ต้องได้จากพรรคแกนนำรัฐบาลในอดีต มาเป็นผู้ต้องให้ตามใจทุกพรรคที่มาจับมือตั้งรัฐบาล หากเกิดการบิดพลิ้วมีโอกาสที่จะตกม้าตายได้ตลอดเวลา แต่เป็นที่รู้กันว่า ก่อนหน้า นายใหญ่เทหมดหน้าตักเดิมพันหวังจะสร้างผลงาน นำพาเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่
หนนี้ เสี่ยหนูพร้อมกุนซืออาจารย์ใหญ่ ก็ยอมเทหมดหน้าตักเหมือนกัน เพื่อจะเข้าไปเป่าเรื่องสำคัญที่พัวพันกับผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้องทั้งกรณีที่ดินเขากระโดง และฮั้วเลือก สว. ตรงนี้แหละที่จะเป็นคำถามจากสังคม โดยเฉพาะบรรดากองเชียร์ของพรรคสีส้ม ไม่รู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ กำลังจะเป็นการเข้าไปช่วยฟอกคดีทั้งสองคดีสำคัญ รวมถึงคดีอั้งยี่ซ่องโจรในความรับผิดชอบของดีเอสไอบ้างหรือ คำตอบของแกนนำพรรคจะส่งผลต่อความนิยม เพราะถ้าวัดกระแส ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่า หากเลือกตั้งในปัจจุบันทันที พรรคประชาชนจะคว้าชัยถล่มทลาย ชนิดแลนด์สไลด์แน่นอน
เมื่อมันไม่ใช่ ทุกการตัดสินใจย่อมส่งผลถึงอนาคต การเมือง 3 ก๊ก แดง ส้ม น้ำเงิน ตามที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มองไว้ ถ้าพรรคสีส้มยกมือหนุนภูมิใจไทย เพื่อไทยก็เป็นฝ่ายค้าน และได้ตรวจสอบพรรคสีน้ำเงินมีเรื่องใหญ่ให้ทำไม่น้อย นึกภาพตามน้ำเงินได้อำนาจรัฐ กุมรัฐบาล ยึดสภาสูง คุมองค์กรอิสระ คดีต่าง ๆ ที่ค้างคาอาจจะได้ด้วย ส้มไม่แน่ว่าจะได้อะไร เพราะเดาไม่ออกว่าพรรคน้ำเงินจะพาบ้านเมืองไปทิศทางไหน แต่ไม่ว่าส้มจะหนุนแดงหรือน้ำเงิน หมากตานี้ไม่มีใครเดินง่าย ที่หายนะน่าจะเป็นบ้านเมืองไม่ใช่การเมือง
อรชุน