
จับตา ADVICE–COM7 วิ่ง! รับ “ไมโครซอฟท์” หยุดซัพพอร์ต Windows 10 ดันยอดขายโปรแกรมพุ่ง
โบรกชู ADVICE–COM7 เด่น รับอานิสงส์ “ไมโครซอฟท์” สิ้นสุดการสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows 10 หนุนยอดขายซอฟต์แวร์ความปลอดภัยรุ่นใหม่ รวมถึงยอดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อรองรับระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ “ไมโครซอฟท์” ประกาศกำหนดการสิ้นสุดการสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows หลายรุ่น โดย Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 หลังจากนั้นบริษัทจะหยุดปล่อยอัปเดตด้านความปลอดภัย การแก้ไขบั๊ก และการบริการด้านเทคนิค เว้นแต่ผู้ใช้งานที่เข้าร่วมโปรแกรม Extended Security Updates (ESU) ซึ่งจะได้รับแพตช์ความปลอดภัยเพิ่มเติมต่อไปได้อีก 1 ปีถึงเดือนตุลาคม 2569 อย่างไรก็ตาม โปรแกรม ESU ครอบคลุมเฉพาะอัปเดตด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ไม่รวมฟีเจอร์ใหม่หรือการปรับปรุงทั่วไป
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากประเด็นที่ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 (เวอร์ชัน 22H2) บางรุ่นจะสิ้นสุดการสนับสนุนในอีก 15 วันข้างหน้า ส่งผลให้ผู้ใช้งานจะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยจากไมโครซอฟท์อีกต่อไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกประเมินว่าเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มธุรกิจ Consumer IT โดยเฉพาะ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE และ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เนื่องจากมีโอกาสสร้างยอดขายจากซอฟต์แวร์ความปลอดภัยรุ่นใหม่ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ผู้บริโภคบางส่วนจะพิจารณาอัปเกรดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อรองรับระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยและปลอดภัยยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้มองว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าและบริการด้านไอทีในระยะสั้น สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและการใช้งานซอฟต์แวร์ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทั้ง ADVICE และ COM7 ยังมีปัจจัยบวกในเรื่องยอดจองซื้อ iPhone 17 Series อีกด้วย
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ COM7 ให้ราคาเป้าหมายที่ 32 บาทต่อหุ้น คาดว่ากำไรหลักปี 2568/2569 จะขยายตัวในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ ได้รับแรงหนุนจากวงจรการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และการเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ ปัจจุบันหุ้น COM7 ซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ปี 2569 ราว 13.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ประมาณ 14% ขณะที่ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2568–2570 ขึ้น 4–5% สะท้อนผลบวกจากยอดจอง iPhone 17 ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด และรายได้จากธุรกิจให้เช่ารถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้า (EV)
นอกจากนี้ ได้มีการปรับราคาเป้าหมายหุ้นจาก 30 บาท ขึ้นเป็น 32 บาท โดยอิงค่า P/E ที่ 17 เท่า พร้อมเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าจากสิ้นปี 2568 ไปสิ้นปี 2569 โดยมีปัจจัยบวกสำคัญที่จะเร่งมูลค่าหุ้นคือการปรับประมาณการกำไรขึ้นจากนักวิเคราะห์ตลาด เนื่องจากประมาณการกำไรปี 2568–2570 ของบริษัทหลักทรัพย์สูงกว่าฉันทามติ (consensus) ถึง 7%
ขณะที่ ADVICE เปิดเผยข้อมูลโดย นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า กระแสเชิงบวกจากการเปิดตัว iPhone 17 ช่วยผลักดันยอดขายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริม อีกทั้งยังมีความต้องการต่อเนื่องในกลุ่มสินค้าไอทีประเภทอื่น ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของบริษัท
ด้านกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ วางเป้าหมายขยายสาขา iStore ให้ครอบคลุม 70 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2569 ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ควบคู่กับการรุกตลาดหัวเมืองรองและภูมิภาคเพิ่มฐานลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งผู้นำธุรกิจไอทีระยะยาว

