
“กัณฑรา” เปิดกลยุทธ์เดือน ต.ค. ชู 5 หุ้นเด่นน่าลงทุน
“กัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา” ประเมินตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางไซด์เวย์อัพ มองการย่อตัวเป็นเพียงการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ ชี้หุ้นไทยยังถูกเมื่อเทียบพื้นฐาน แนะเก็งกำไร 5 หุ้นเด่น CPALL, ICHI, KTB, MTC และ SYNEX
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ “ไซด์เวย์อัพ” แม้จะมีแรงขายกดดันในบางวัน แต่เป็นเพียงการย่อตัวเพื่อปรับฐาน ไม่ใช่สัญญาณกลับทิศลง ขณะที่ดัชนีบริเวณ 1,290-1,300 จุดเป็นระดับสำคัญทั้งเชิงเทคนิคและจิตวิทยาตลาด ซึ่งต้องอาศัยแรงซื้อหนุน โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ จึงจะสามารถผ่านขึ้นไปได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายในตลาดราว 35,000 ล้านบาทต่อวัน ยังถือว่าบางเกินไปที่จะยืนยันทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยปกติควรเห็นการซื้อขายระดับ 50,000-60,000 ล้านบาทจึงจะสะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาอย่างจริงจัง จะช่วยผลักดันดัชนีให้ขยับขึ้นได้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ มองว่าตลาดยังให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะโดดเด่น ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์และบริษัทไฟแนนซ์ที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง รวมถึงหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตจากการบริโภคและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ
นอกจากนี้ หุ้นไทยหลายตัวราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน แม้ดัชนีจะอยู่ใกล้ระดับ 1,300 จุดก็ตาม จึงเป็นโอกาสในการทยอยสะสม โดยในธีมการลงทุนเดือนตุลาคม ฟินันเซียแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ซึ่งเหมาะกับทั้งการลงทุนและการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น
ด้านปัจจัยภายนอก ขณะนี้ตลาดเริ่มตีความข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกเป็นปัจจัยลบ เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด ส่งผลให้ข่าวดีถูกตีความเป็นข่าวร้ายได้ อย่างไรก็ตาม หากเฟดเริ่มลดดอกเบี้ยจริง จะช่วยเปิดโอกาสให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย
สำหรับการเมืองไทย นางกัณฑรามองว่าช่วงนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง จึงลดแรงกดดันต่อตลาดทุน ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ “คนละครึ่ง” หรือมาตรการด้านภาษีที่จะออกมาช่วงปลายปี จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อตลาดในระยะสั้น ขณะที่หลังการเลือกตั้งเมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร งบประมาณใหม่และนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจนจะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ แม้จะยังแกว่งตัวในกรอบไซด์เวย์ โดยกลยุทธ์สำคัญคือ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและราคายังไม่แพง ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในเชิงการลงทุนระยะกลางและการเก็งกำไรระยะสั้น