
DELTA ร่วง 9% เซ่นตลท. จับติด Trading Alert พ่วงโบรกแนะ “ขาย”
DELTA ร่วง 9% เผชิญแรงเทขาย หลังตลท. จับติด Trading Alert ระดับ 1 (T1) และ Cash Balance ตั้งแต่ 10 ต.ค.68 ถึง 30 ต.ค.68 พ่วงบล.เคจีไอ ประเมินว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่า แพงมากแล้ว โดยคิดเป็น PER ราว 100 เท่า ดังนั้นจึงแนะนำ “ขาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ณ เวลา 10:05 น. อยู่ที่ระดับ 180.50 บาท ลบ 17.00 บาท หรือ 8.61% สูงสุดที่ระดับ 183.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 175.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 795.91 ล้านบาท
ทั้งนี้ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวตงหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์ที่มีระดับราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมากจากช่วงก่อนหน้า และอยู่ระหว่างบริษัทชี้แจงข้อมูล (Trading Alert List)
พร้อมทั้งให้ DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 : ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ตั้งแต่ 10 ต.ค.68 ถึง 30 ต.ค.68
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ DELTA ในไตรมาส 3/68 จะอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (ลดลง 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, แต่เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อน) จากยอดขายของกลุ่ม AI Data Center ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9 เดือนแรกปี 68 อยู่ที่ 1.51 หมื่นล้านบาท (ลดลง 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน)
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ายอดขายในไตรมาส 3/68 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ฯ (เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน) ส่งผลให้ยอดขายในงวด 9 เดือนแรกของปี 68 อยู่ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์ฯ (เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน)
ทั้งนี้ product mix ที่ดีน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าผลจากการแข็งค่าของเงินบาท จึงคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/68 จะอยู่ที่ 25.6% (ลดลง 2 ppts เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน , และเพิ่มขึ้น 0.6 ppts จากไตรมาสก่อน)
ขณะเดียวกันคาดว่าจะสามารถควบคุม สัดส่วน SG&A ต่อยอดขาย ไว้ได้ที่ 13% เนื่องจากไม่มีการต่อรองค่า royalty fee ใหม่อีก
สำหรับแนวโน้มในครึ่งหลังของปี 2568–2569 ดูสดใสกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ (ลดความกังวลต่อความเสี่ยงจากวัฏจักรอุตสาหกรรมขาลง, การเร่งอุปสงค์เข้ามาเร็วกว่าคาด, และอุปสงค์ที่อาจอ่อนแรงหลังภาษีการค้ามีผลบังคับใช้) หลังจากที่ KGI Taiwan เปลี่ยนมุมมองต่อการกลับทิศของวัฏจักรอุตสาหกรรมขาลง ทำให้เราทบทวนสมมติฐานของ DELTA ใหม่ (ปรับเพิ่มยอดขายปีนี้ขึ้น 2% และปี 2569 ขึ้น 6%) ส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568–2569 ขึ้นอีก 4–8%
โดยราคาหุ้น DELTA อาจทำให้ผู้ถือพันธบัตรของ Delta Electronics Inc. (2308.TW / 2308 TT) ใช้สิทธิ์แปลงสภาพในเดือน มกราคม 2568 โดย Delta International Holding B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Delta Electronics Inc. ออกพันธบัตร zero coupon ที่สามารถแปลงเป็นหุ้นได้ มูลค่า 525 ล้านดอลลาร์ฯ อายุ 5 ปี ครบกำหนดในปี 2573
พันธบัตรทุก ๆ มูลค่า 200,000 ดอลลาร์ฯ สามารถแปลงเป็นหุ้น DELTA จำนวน 37,086.3539 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ์ 187.6 บาท ทั้งนี้ ผู้ถือพันธบัตรมีสิทธิ์ไถ่ถอนก่อนกำหนดได้ที่ 106.31% ของมูลค่าต้น หลังจากครบอายุ 3 ปี หรือเลือกรับ 110.74% ของมูลค่าต้น ในวันครบกำหนด (21 มกราคม 2573)
จากการคำนวณของเรา ราคาหุ้น DELTA ที่สูงเกิน 199.5 บาท (สูงกว่าราคาใช้สิทธิ์ 187.6 บาทราว 6.31%) จะเป็นระดับที่จูงใจให้ผู้ถือพันธบัตรใช้สิทธิ์แปลงสภาพและขายหุ้นออกมาในตลาดเพื่อรับรู้กำไร
ดังนั้นจากมุมมองเชิงบวกและการกลับทิศของวัฏจักรอุตสาหกรรม จึง re-rate PER (จากอิงค่าเฉลี่ยเป็น +0.5 S.D.) และปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 เป็น 130.00 บาท อิงจาก PER ที่ 63.0 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ DELTA +0.5 S.D.) จากเดิมที่ 83.00 บาท
แม้ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า DELTA จะได้อานิสงส์จากกระแส AI แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่า แพงมากแล้ว โดยคิดเป็น PER ราว 100 เท่า ดังนั้นจึงแนะนำ “ขาย” DELTA