
ปัญหาหุ้น DELTA
หุ้นเดลต้าฯ หรือ DELTA ปรับลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้น Trading Alert
ลูบคมตลาดทุน
หุ้นเดลต้าฯ หรือ DELTA ปรับลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา
เป็นผลมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้น Trading Alert ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายตามระดับ 1–3 หรือบอกระดับการติด “แคชบาลานซ์” ของหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ
แต่นักลงทุนยังคงสามารถซื้อขายหุ้นที่เข้ามาตรการนี้ได้ เพียงแต่มีข้อจำกัดในการซื้อขายเพื่อลดความร้อนแรง
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หรือเมื่อประมาณวันที่ 1 ตุลาคม 68 หุ้นเดลต้าฯ มีส่วนสำคัญต่อการผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นมากว่า 38 จุด
ขณะที่ราคาของหุ้นเดลต้าฯ เกิดการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากระดับประมาณ 160 บาทขึ้นมาปิดตลาดที่เกือบ 200 บาท
ถามว่าราคาหุ้นที่ขึ้นมานี้สะท้อนกับพื้นฐานของเดลต้าหรือเปล่า
คำตอบคือ น่าจะเป็นราคาที่ขึ้นอยู่กับความพอใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาเทรดหุ้นเดลต้ามากกว่า
เพราะอาจจะมองว่าในอนาคตหรือแนวโน้มอันใกล้ผลประกอบการเดลต้าน่าจะออกมาดี
แต่อย่างที่เรารับทราบกันหุ้นเดลต้า ไม่ใช่เป็นหุ้นสไตล์ “ปันผล” แต่เป็นหุ้นที่เก็งกำไรกับแนวโน้มของผลประกอบการและคาดหวังกับส่วนต่างราคาหุ้นเท่านั้น
กลุ่มนักลงทุนที่เล่นหุ้นเดลต้า เป็นกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ (ที่ไม่ค่อยอยากจะเรียกว่าฟันด์โฟลว์) กับอีกกลุ่มคือนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนต่าง ๆ ในประเทศไทย
การปรับลงของราคาหุ้นเดลต้าเมื่อ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงอย่างหนัก
เพราะการปรับขึ้นของราคาหุ้นเดลต้าประมาณ 1 บาท มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยประมาณ 1 จุด หรืออาจจะมากกว่านี้เล็กน้อย
ปัจจุบันหุ้นเดลต้ามีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท มากสุดเป็นอันดับหนึ่งของ บจ.ไทย
เมื่อปลายสัปดาปดาห์ก่อน ผมเพิ่งจะเขียนเตือนไปว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะมีมาตรการบางอย่างออกมาเพื่อสกัดเกี่ยวกับความร้อนแรงของราคาหุ้นเดลต้า
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
การถูกให้ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ของหุ้นเดลต้า ทำให้การซื้อขายไม่สามารถที่จะใช้วงเงินมาร์จิ้นได้ คือต้องใช้บัญชีแคชบาลานซ์เท่านั้น ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นอยู่ต้องกลับมาใช้เงินสดและบางส่วนต้องมีการปรับพอร์ตด้วยการขายหุ้นออกมา
มีการมองกันว่า กลุ่มนักลงทุนที่พาหุ้นเดลต้าขึ้นมานั้น
ต่างมีการคาดเดาอยู่แล้วว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะมีการใช้มาตรการดังกล่าว และเมื่อมีใช้มาตรการนั้นจริง ๆ จึงเป็นช่องในการหาข้ออ้างว่าเป็นการขายเพื่อปรับพอร์ต ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นการสบช่องเพื่อต้องการขายทำกำไรมากกว่า
นับจากนี้ราคาของหุ้นเดลต้าอาจจะลดความร้อนแรงลงไป
แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ชั่วขณะเท่านั้น
เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ที่หุ้นเดลต้าเคยถูกบังคับให้ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ ราคาหุ้นก็จะสงบชั่วคราว แล้วก็จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง วนเวียนไม่รู้จบอยู่แบบนี้
สำหรับหุ้นเดลต้านั้น เป็นหุ้นที่มีสัดส่วนของฟรีโฟลตค่อนข้างต่ำ (หรือต่ำกว่า 25%) ทำให้เกิดการถือหุ้นแบบกระจุกตัว และสามารถที่จะทำราคาได้ค่อนข้างง่าย
ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็พยายามที่จะเข้ามาแก้ไขตรงจุดนี้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างจริงจัง เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ตัวอื่นที่มีฟรีโฟลตต่ำด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการบังคับให้ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ เมื่อราคาหุ้นนั้นมีความร้อนแรง (โดยเฉพาะหุ้นเดลต้า) เหมือนกับเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ต้องมาติดตามดูว่าหากจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับราคาหุ้นของเดลต้า
ทางหน่วยงานกำกับจะมีวิธีดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้อย่างไร
เพื่อไม่ให้ปัญหาวนเวียนอยู่แบบนี้
ธนะชัย ณ นคร