“ดาวโจนส์” ร่วง 17 จุด ฟากดัชนี S&P500 – Nasdaq พุ่ง รับกลุ่มแบงก์หนุน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์อ่อนแรงเล็กน้อย ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ทะยานต่อเนื่อง รับแรงหนุนผลประกอบการธนาคารยักษ์ใหญ่ทั้ง Morgan Stanley และ Bank of America ดีกว่าคาด ส่งสัญญาณเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งแม้เผชิญความตึงเครียดทางการค้ากับจีน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (15 ต.ค.68) ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยได้รับแรงหนุนหลักจากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาดของธนาคารใหญ่หลายแห่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,253.31 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ -0.04% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,671.06 จุด เพิ่มขึ้น 26.75 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,670.08 จุด เพิ่มขึ้น 148.38 จุด หรือ +0.66%

สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า หุ้น Morgan Stanley พุ่งขึ้นประมาณ 6.7% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาหุ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้น Bank of America เพิ่มขึ้นราว 4.4% หลังประกาศกำไรและรายได้สูงกว่าคาด พร้อมปรับประมาณการรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Income) ขึ้น

ธนาคารรายใหญ่อื่น ๆ เช่น JPMorgan Chase, Goldman Sachs และ Citigroup ต่างรายงานผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนภาพรวมของภาคการเงินที่ยังคงมีแรงหนุนแข็งแกร่ง โดยแรงซื้อในกลุ่มธนาคารช่วยหนุนดัชนี S&P 500 หมวดการเงินให้ดีดตัวขึ้นประมาณ 1.2%

หุ้นสินค้าเกษตรและอาหารปรับตัวขึ้นเด่นเช่นกัน โดย Bunge Global ทะยานขึ้นราว 10–13% หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ระงับการนำเข้าน้ำมันพืชจากจีน ขณะที่ Archer-Daniels-Midland (ADM) มีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่จีนจะลดการสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ

ด้านสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน ยังคงเป็นประเด็นที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้ความขัดแย้งทางการค้าทวีความรุนแรง พร้อมเปิดเผยว่า จะเสนอรายชื่อผู้ที่อาจได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Chair) ให้ประธานาธิบดีทรัมป์พิจารณาในช่วงหลังเทศกาล Thanksgiving

Back to top button