“อังกฤษ” คว่ำบาตร 2 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ “รัสเซีย” กดดันยุติสงครามยูเครน
อังกฤษ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรัสเซีย Lukoil และ Rosneft พร้อมเรือบรรทุก 44 ลำ ตัดท่อน้ำเลี้ยงทำสงครามในยูเครน ฟาก สหรัฐฯ เปรยอินเดียพร้อมยุติซื้อขายน้ำมันรัสเซีย หนุนมาตรการ G7 กดดันรัสเซียเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 ต.ค. 68) อังกฤษ ประกาศคว่ำบาตร บริษัทลูคอยล์ (Lukoil) และ รอสเนฟต์ (Rosneft) ซึ่งเป็น 2 บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลรัสเซีย รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันอีก 44 ลำ เมื่อวานที่ผ่านมา 15 ต.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการคว่ำบาตรด้านพลังงานและตัดท่อน้ำเลี้ยงด้านรายได้ในการทำสงครามของรัสเซีย
โดยลูคอยล์และรอสเนฟต์ถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่อังกฤษบังคับใช้กับรัสเซีย เนื่องจากอังกฤษมองว่าบริษัททั้ง 2 แห่งมีบทบาทในการสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย โดยบริษัทเหล่านี้จะต้องเผชิญกับการถูกอายัดทรัพย์สินและถูกจำกัดการขนส่ง
นอกจากนี้ ทางการอังกฤษ ระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์กับรัสเซีย และมีส่วนในการสนับสนุนรายได้แก่รัฐ ซึ่งช่วยหล่อเลี้ยงสงครามในยูเครน โดย รอสเนฟต์ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งครองสัดส่วนราว 40% ของผลผลิตทั้งหมดของประเทศ และลูคอยล์ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับ 2
ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดียได้ให้คำมั่นสัญญาว่า อินเดียจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และก้าวต่อไปของสหรัฐฯ คือ การโน้มน้าวให้จีน ยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซียเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มความพยายามในการตัดรายได้ด้านพลังงานของรัสเซียและกดดันให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพในยูเครน
ขณะที่ก่อนหน้านี้เอง รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (G7) ยังได้ร่วมหารือแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการจำกัดการส่งออกน้ำมันและรายได้ของรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามกับยูเครน
