เริ่มตั้งฐานใหม่

สิ่งที่อีฉันชอบมากสุดในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้การชี้นำจากดัชนีดาวโจนส์ และการขยับตัวของดัชนีไทยผิดไปจากความเป็นจริงมาก


สิ่งที่อีฉันชอบมากสุดในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้การชี้นำจากดัชนีดาวโจนส์ และการขยับตัวของดัชนีไทยผิดไปจากความเป็นจริงมาก เพราะหุ้นเดลต้าเพียงตัวเดียวสามารถกำหนดการขึ้นลงของตลาดหุ้นได้เบ็ดเสร็จคือ ดัชนีสามารถประคองตัวยืนเหนือแนวรับ 1,300 จุดได้แบบลุ้นระทึก ซึ่งอาจตีความหมายในทางบวกได้ว่า นักลงทุนบางส่วนยังอยากช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาเจ้าค่ะ

ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่า ก็มีบางเรื่องที่น่าผิดหวังเช่นกัน โดยเฉพาะการที่เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ในระดับ 3.75%–4.00% น่าจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นแรง แต่กลับไม่เป็นเช่นดังที่คาดหวังนั้น อาจมีคำอธิบายถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวมากมาย และเมื่อมองภาพใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจทั่วโลก อีฉันกลับมองเป็นเรื่องที่ทำให้แรงบีบคั้นหลายด้านลดลงพะยะค่ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงมองการประคองตัวปิดที่ระดับ 1,314.65 จุด ลบไป 0.99 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.55 หมื่นล้านบาท คือการย้ำหัวหมุดให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนยังมีอยู่ ผนวกกับมีแรงซื้อกระจายไปยังหุ้นใหญ่บางตัวมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ตลาดหุ้นกำลังเริ่มตั้งฐานใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระลอก และหากดัชนียืนหยัดต้านแรงขายหนัก ๆ ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็มีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบ 1,330 จุดนะตัวเอง

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดสุดในเรื่องนี้คือ การพุ่งพรวดของปูนใหญ่ SCC ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 212 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 2.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากหุ้นโดนขายรัว ๆ จนร่วงจากระดับ 230 บาท ลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ที่บริเวณ 200 บาท ก่อนแกว่งตัวขึ้นอย่างช้า ๆ โดยงบไตรมาส 3 ขาดทุนไปถึง 669 ล้านบาทแบบนี้..แสดงว่า การขึ้นวานนี้น่าจะมาจากความคาดหวังว่า กำไรไตรมาส 4 จะฟื้นตัวอะป่าว?

หากลักษณะการเคลื่อนตัวเป็นเหมือนข้างต้น “โมนิก้า” ก็อยากให้แฟนคลับจับตาดูหุ้น HMPRO ไว้บ้าง เพราะพล็อตเรื่องก็คงเป็นแบบเดียวกัน และทำให้การยืนปิดที่ระดับ 6.45 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 179 ล้านบาท น่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นเคยลงมายืนที่ฐานเก่าบริเวณ 6.35 บาท ก่อนไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ ไปหายอดเดิมที่บริเวณ 8 บาทนะซี

เม้าท์เรื่องหุ้นที่เทรดสูง ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น KTB เป็นรายถัดมา หลังราคาหุ้นพยายามยกฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม และทันทีที่ขึ้นมาแตะระดับ 27.50 บาท ก็มีแรงขายออกมาทุกครั้ง แต่หุ้นก็ยังประคองตัวยืนเหนือระดับ 26 บาทได้อย่างเหนียวแน่น อีฉันถึงอยากถามนักเล่นว่า การยืนปิดที่ระดับ 27.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.64 พันล้านบาท เหมาะต่อการลงทุนไหมจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงการควบรวมของหุ้น BANPU กับ BPP ขึ้นมาทันที เพราะเมื่อดูแนวทางการควบรวมเพื่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา มันเป็นการอัพแวลูของธุรกิจเหมือนเจ้าก่อน ๆ ที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ในช่วงแรกมีความหวือหวาสุด ๆ อีฉันเลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นแม่พุ่งขึ้นมาปิดที่ 5 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 16.28% ด้วยมูลค่า 3.08 พันล้านบาท ส่วนตัวลูกก็พุ่งขึ้นมาปิดที่ 12.80 บาท บวกไป 2.60 บาท หรือขึ้นไป 25.49% ด้วยมูลค่า 1.06 พันล้านบาทแบบชิล ๆ พะยะค่ะ

ปิดท้ายกันที่เรื่องเม้าท์ในวงการตลาดหุ้นสักหน่อย เพราะทันทีที่ “ช่วงชัย” และ “วราห์” ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง บมจ.ฟินันเซีย เอกซ์ หรือ FSX ร่อนจดหมายไม่สามารถเข้าร่วมประชุม กมธ.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวโยงกับตัวเอง พร้อมกับปฏิเสธความเกี่ยวข้องเรื่องฟอกเงิน และสแกมเมอร์ ก็ทำให้ต่อมขาเผือกทำงานหนักทันทีแบบนี้..อีฉันบอกได้คำเดียวว่า ขนแขนแสตนอัพ..อิอิอิ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button