MMM มั่นใจกำไรปีนี้ “ออลไทม์ไฮ” ชูจุดเด่นโตสม่ำเสมอ-ปันผลทุกไตรมาส

MMM โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 68 โต 155% คาดปีนี้ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เตรียมนำเงินระดมทุนขยายธุรกิจ BU2 และ BU Hybrid หวังดันการเติบโตแตะระดับ Double Digit


นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตเพิ่มขึ้น 155% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือ All Time High ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้ขยายธุรกิจในส่วนของ BU2 และ BU Hybrid ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการต่อยอดการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมที่ MMM เติบโตจากธุรกิจ BU1 ด้านคอนโดมิเนียม โดยการขยายไปยัง BU2 และ BU Hybrid จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มอัตราการเติบโตได้ในระดับ Double Digit อย่างต่อเนื่อง

โดยธุรกิจของ MMM มีความได้เปรียบในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากบริษัทมีเครือข่ายนายหน้าอิสระมากกว่า 1,000 ราย โดยกว่า 300-400 รายเป็นกลุ่มที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นทำงานร่วมกับผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ส่งผลให้ MMM มีอำนาจต่อรองสูงและได้ทรัพย์ในต้นทุนที่ดี

สำหรับไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทเตรียมลงนามความร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวนประมาณ 3 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-10 ล้านบาท ทั้งนี้ MMM ตั้งเป้าบริหารสต็อกโครงการเฉลี่ยไม่เกิน 15-18 เดือน เพื่อให้การระบายทรัพย์มีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่ด้วยโมเดลธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนสร้างหรือรับภาระต้นทุนดอกเบี้ย ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวขายทรัพย์สินรูปแบบอื่นได้อย่างคล่องตัว พร้อมยืนยันผลประกอบการในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ MMM ยังเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยมีกำไรสุทธิในปี 2567 ประมาณ 80 ล้านบาท และงวด 9 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 103 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ราว 18% ซึ่งถือว่าโดดเด่นในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ราคาหุ้นเสนอขาย IPO อยู่ที่ 5.50 บาท คิดเป็นค่า P/E ย้อนหลัง 12 เดือนราว 13.4 เท่า และเมื่ออิงผลประกอบการล่าสุด P/E อยู่ที่ประมาณ 11.5 เท่า ถือเป็นระดับที่น่าลงทุนสำหรับหุ้นเติบโตต่อเนื่อง

นางสาวณิชา กล่าวทิ้งท้ายว่า MMM เข้าตลาด LiVEx ตั้งแต่ปลายปี 2567 และพิสูจน์ศักยภาพด้วยการเป็น “Gold Stock” และ “Dividend Stock” จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องมาแล้ว 6 ไตรมาสติดต่อกัน พร้อมเชื่อมั่นว่าหลังจากการเข้าซื้อขายในตลาด mai บริษัทจะสามารถขยายการเติบโตได้อีกมากในระยะยาว

Back to top button